Wed, 8 May 2024 13:29:00
สถานการณ์ทะเลอุ่นขึ้นในหลายพื้นที่ทั้งฝั่งอันดามันและอ่าวไทย ซึ่งก่อนหน้านี้นักวิชาการทางทะเลแสดงความกังวลว่าอุณหภูมิผิวน้ำทะเลที่เพิ่้มขึ้นเพียง 1-2 องศาเซลเซียส จะส่งผลต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
วันนี้ (8 พ.ค.2567) ทีมข่าวไทยพีบีเอสดำน้ำสำรวจปะการังบริเวณบริเวณอ่าวไข่ เกาะจาน หนึ่งในหมู่เกาะแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2567 ซึ่งเป็นแหล่งดำน้ำท่องเที่ยวดังอีกสถานที่หนึ่งของหมู่เกาะแสมสารที่ความลึก 6-8 เมตร อุณหภูมิน้ำทะเล 32 องศาเซลเซียส ทำให้ปะการังทั้งชนิดกิ่งและโขด เริ่มฟอกขาวเป็นวงกว้าง แม้เมื่อวานนี้ (7 พ.ค.) ทะเลบริเวณหมู่เกาะแสมสารจะมีฝนตกหนัก
อ่านข่าว โลกเดือด! อุณหภูมิไทยแตะ 43 องศาฯ ปะการังฟอกขาว
ปะการังโขดที่เกาะแสมสาร จ.ชลบุรี เริ่มฟอกขาว
ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม ระบุว่า อาจช่วยได้เพียงเล็กน้อย เพราะน้ำร้อนเกิน 30.5-31 องศาเซลเซียส ต่อเนื่องกัน 3-4 สัปดาห์ เป็นสาเหตุหลักทำให้ปะการังฟอกขาวและตาย ซึ่งน้ำร้อนอาจเกี่ยวข้องกับความแปรปรวนของโลกร้อน
นายจิระพงศ์ จีวรงคกุล นักวิชาการอิสระ ผู้จัดการฝ่ายมูลนิธิเอ็นไลฟ บอกว่า ปะการังฟอกขาว คือ ปะการังที่กำลังอ่อนแอ มีความเครียดสูง ทำให้สูญเสียแหล่งพลังงานสำคัญ คือ สาหร่ายซูแซนเทลลี อาศัยร่วมในตัวปะการัง เป็นผู้ทำให้เกิดสี และให้พลังงานกับปะการัง ส่วนเนื้อเยื่อปะการังนั้นจะโปร่งใสไม่มีสี
อ่านข่าว ไขปมอุณหภูมิลดฮวบ 10 องศาฯ หลังฝนตกพายุถล่ม
เมื่อสูญเสียสาหร่ายเพื่อนซี้จากอุณหภูมิน้ำทะเลร้อนเป็นเวลานาน ทำให้สามารถมองทะลุผ่านเนื้อเยื่อใสลงไป จนเห็นโครงสร้างหินปูนสีขาวภายใน ตอนนี้ปะการังจะยังไม่ตาย แต่เป็นผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะอ่อนแอ พร้อมตายได้ทุกเมื่อ
โดยมีข้อเสนอแนะช่วยยับยั้ง ชะลอการตายของปะการัง คือ หลีกเลี่ยงการไปดำน้ำบริเวณที่พบการฟอกขาวของปะการัง หรือใครมีโอกาสไปดำน้ำเจอ ให้รายงานต่อหน่วยงานที่ดูแล เช่น กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อกำหนดแผนการเฝ้าระวัง
เพราะการไปในแนวปะการังแต่ละครั้ง มีการรบกวนในรูปแบบต่างๆ เช่น คราบน้ำมันเรือ ครีมกันแดด น้ำเสียที่ลงในแนวปะการัง เศษอาหารเหลือ นี่ไม่นับรวมการเหยียบยืนบนปะการัง การแอบให้อาหารปลาในแนวปะการังอีก เป็นการเพิ่มความเครียดให้ปะการังทั้งนั้น
ปิดเกาะปลิงไม่มีกำหนด ปะการังฟอกขาว
นายวัชระ ส่งสีอ่อน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ออกประกาศปิดการท่องเที่ยวบริเวณเกาะปลิง และแนวปะการังโดยรอบเป็นการชั่วคราว โดยระบุว่า อุทยานแห่งชาติสิรินาถ ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 จ.ภูเก็ต สำรวจติดตามสถานการณ์การฟอกขาว พบว่าบริเวณเกาะปลิง และแนวปะการังโดยรอบมีการฟอกขาว
ปะการังที่เกาะปลิง อุทยานแห่งชาติสิรินาถ ฟอกขาว จนต้องประกาศปิดท่องเที่ยวชั่วคราว เพื่อฟื้นฟู
จากพิจารณาแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อแนวปะการังรวมถึงลดผลกระทบจากกิจกรรมประเภทต่างๆ ที่อาจเป็นการเร่งให้ปะการังเกิดการฟอกขาว จึงขอประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวบริเวณเกาะปลิงและแนวปะการังโดยรอบเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์การฟอกขาวของปะการังจะคลี่คลายลง
อ่านข่าวอื่นๆ
"ราชทัณฑ์" โยนกรมคุมประพฤติตรวจปม "ทักษิณ" คุยกลุ่มชาติพันธุ์เมียนมา
รวบอดีต ตชด.หนีคดีอุ้มฆ่า 2 วัยรุ่นทิ้งทะเลสาบสงขลา
Next >>
Wed, 8 May 2024 10:13:02
วันที่ 7 พ.ค.2567 เวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้รับแจ้งจากผู้ประกอบการเรือหางยาว พบซากพะยูนลอยอยู่ในทะเลบริเวณร่องน้ำปากทางเข้าคลองแห้ง ท่าเรือหาดนพรัตน์ธารา หมู่ที่ 5 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ ซึ่งชาวบ้านได้ช่วยกันลากพะยูนเข้าฝั่ง
นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติฯ เข้าตรวจสอบพบเป็นพะยูนตัวเมีย เต็มวัย น้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม มีร่องรอยถูกใบจักรเรือฟันบริเวณหัว เป็นแผลฉกรรจ์ขนาดใหญ่ 2 แผล ขณะตรวจสอบเบื้องต้น พะยูนยังมีชีวิต จึงกดแผลห้ามเลือด และประสานสัตว์แพทย์ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่าง (จังหวัดตรัง) ประเมินอาการ
ต่อมาพะยูนดังกล่าวหยุดหายใจและตายลง ทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานงานนำซากส่งศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่าง เพื่อตรวจสอบชันสูตรโดยละเอียด
นอกจากนี้ หัวหน้าอุทยานฯ ได้มอบหมายเจ้าหน้าที่จัดทำบันทึกการตรวจสอบ เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี
อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่อุทยานฯ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี พบการเข้ามาอยู่อาศัยของพะยูนค่อนข้างน้อย โดยเป็นการอพยพหากินตามแหล่งอาหารในแต่ละช่วงฤดูกาล ส่วนพื้นที่เกิดเหตุเป็นบริเวณเส้นทางเข้าออกของเรือนำเที่ยวจำนวนมาก ทั้งเรือสปีดโบ๊ท เรือหางยาว หากมีพะยูนเข้ามาอาศัยในพื้นที่ดังกล่าวจะมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตราย
ทั้งนี้ อุทยานฯ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จะเร่งสำรวจการเข้ามาหากินของพะยูนในพื้นที่ดังกล่าว และประชาสัมพันธ์เชิงรุกให้ผู้ประกอบการนำเที่ยวใช้ความระมัดระวังในการขับเรือ ลดความเร็วเรือขณะเข้าพื้นที่น้ำตื้น ซึ่งอาจเป็นพื้นที่ที่มีพะยูนเข้ามาหากิน
<< Previous Next >>
Tue, 7 May 2024 10:29:16
วันนี้ (6 พ.ค.2567) เกิดอุบัติเหตุ รถเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าตกดอย บ้านห้วยขนุน อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
ได้รับรายงานจากหัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าจอมทอง ว่าเป็นรถ ของชุดปฏิบัติงานลาดตระเวนและดับไฟป่าในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าจอมทอง ตามที่กรมป่าไม้ได้โอนภาระกิจให้เทศบาล ตำบลดอยแก้ว อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวไปตรวจสอบจุดความร้อนวันที่ 6 พ.ค.2567 รอบเช้า บริเวณป่าขุนห้วยแม่เตี๊ยะ ท้องที่บ้านห้วยขนุน ม.9 ต.ดอยแก้ว อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เบื้องต้น มีผู้บาดเจ็บจำนวน 14 คน
เวลา 14.40 น.นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้สัมภาษณ์ไทยพีเอสออนไลน์ว่า ขณะนี้ได้รับรายงานเรื่องกลุ่มชาวบ้านชุดดับไฟป่าของจังหวัดเชียงใหม่ประสบอุบัติเหตุรถตกเหว พื้นที่ จ.เชียงใหม่บาดเจ็บ 14 คน ในจำนวนนี้สาหัส 4 คน และเจ้าหน้าที่สามารถลำเลียงผู้ที่อาการสาหัสจากเหวลึก 15 เมตรขึ้นมาได้แล้ว 2 คน เนื่องจาก
เนื่องจากสภาพพื้นที่ค่อนข้างลำบากเจ้าหน้าที่ส่งกำลังคนและทีมกู้ภัยกรมอุทยานฯ เข้าพื้นที่ บางส่วนต้องปฐมพยาบาลในจุดเกิดเหตุก่อน โดยระดมสรรพกำลังทุกภาคส่วนเข้าพื้นที่ให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ รวมมั่งประสานนำเฮลิคอปเตอร์มารอรับผู้บาดเจ็บ
เมื่อถามว่ากลุ่มชาวบ้านเข้าพื้นที่ไม่มีความชำนาญหรือไม่ นายอรรถพล กล่าวว่า คิดว่า ชาวบ้านที่ดับไฟป่าน่าจะมีความชำนาญพื้นที่และสภาพภูมิประเทศแต่อาจเป็นจากตัวรถ หรืออุบัติเหตุขึ้น และเหตุอื่นๆ ซึ่งหลังจากนี้คงมีการสอบสวน แต่เบื้องต้นต้องระดมช่วยคนเจ็บออกจากจุดนั้นให้เร็วและปลอดภัยที่สุด
ต่อมาเวลา 15.00 น. นายศุภฤกษ์ เลิศลักษณ์ศิริกุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติออบหลวง รายงานเพิ่มเติมว่าชุดที่ประสบอุบัติเหตุไม่ใช่เจ้าหน้าที่ดับไฟป่าจากกรมป่าไม้ หรือกรมอุทยานฯ เป็นรถของชุดปฏิบัติงานลาดตระเวนและดับไฟป่าในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าจอมทอง ตามที่กรมป่าไม้ได้โอนภารกิจให้เทศบาลตำบลดอยแก้ว อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
ซึ่งรถยนต์เทศบาลดอยแก้วขึ้นไปดับไฟป่าในเขตบ้านห้วยขนุน รถเกิดอุบัติเหตุตกเหว ในชุดปฏิบัติงานมีพ่อหลวง ผู้ช่วยฯ จนท.เทศบาลดอยแก้ว รวมอยู่ด้วย โดยมีผู้บาดเจ็บสีแดง 3 คนนำตัวไปที่โรงพยาบาลจอมทอง ส่วนอาการสีเหลือง 6 คน สีเขียว 5 คน ส่งตัวรักษาที่โรงพยาบาลจอมทอง และโรงพยาบาลดอยหล่อ
ล่าสุด นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เดินทางเยี่ยมให้กำลังใจผู้บาดเจ็บในการนี้ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้บาดเจ็บ ณ โรงพยาบาลจอมทอง พร้อมกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือเยียวยาผู้บาดเจ็บ และหลังเกิดเหตุ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่สั่งการให้เตรียมเฮลิคอปเตอร์สแตนบายส่งผู้บาดเจ็บสีแดง รักษาในเมือง หากเกินขีดความสามารถโรงพยาบาลจอมทอง
<< Previous Next >>
Tue, 7 May 2024 07:32:00
วันนี้ (7 พ.ค.2567) เช้ามืดวันนี้รถขนกากแคดเมียมจาก จ.สมุทรสาคร ล่าสุดมาถึงที่โรงพักคอยที่จังหวัดตาก เป็นที่เรียบแล้ว โดย รถขนกากแคดเมียมรอบที่ 2 จากโรงงาน เจแอนด์ บี เมททอล จำกัด จ.สมุทรสาคร เดินทางมาถึงโรงพักคอย บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด(มหาชน) เวลา 04.55 น. โดยมีรถตำรวจนำขบวน
การขนกากแคดเมียมครั้งที่ 2 มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะการบรรทุกโดยใช้รถเทรลเลอร์ จำนวน 8 คัน บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ โดยรถ 1 คัน จะบรรทุกได้ 18 ถุงบิ๊กแบ็คหรือประมาณ 25 - 30 ตัน ซึ่งกากแคดเมียมที่ขนมาที่ จ.ตาก รอบ 2 นี้จะมีจำนวน 221.54 ตันใกล้เคียงกับการขนครั้งก่อน
อ่านข่าว : เตรียมขนย้าย "กากแคดเมียม" รอบ 2 ออกจากโรงงาน J&B
กากแคดเมียมที่มาถึง จ.ตาก รอบ 2 จะขนลงในช่วงสายวันนี้ ซึ่งวิธีการขนก็จะใช้รถเครนยกบิ๊กแบ็คลงทีละถุงไปเก็บที่อาคารพักคอย รวมกับกากแคดเมี่ยมกลุ่มแรกที่ขนไปเมื่อ 2 วันก่อนหน้านี้
เช้ามืดวันนี้รถขนกากแคดเมียมจาก จ.สมุทรสาคร รอบที่ 2 ล่าสุดมาถึงที่โรงพักคอยที่ จ.ตาก เป็นที่เรียบแล้ว
การขนกากแคดเมียมครั้งนี้ เป็นไปตามมติคณะทำงาน 6 ฝ่าย โดยที่ผ่านมาภาคประชาชน ยังมีการคัดค้านต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเด็นการขนย้าย และการป้องกันการรั่วไหลของกากแดดเมียม เช่น กรณีหลังคาของอาคารโรงพักคอยที่หลังคายังรั่วบางส่วน กากแคดเมียมอาจถูกน้ำได้ หากมีฝนตกลงมาในช่วงนี้
ด้านนายอดิทัต วะสีนนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมขั้นพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ก่อนหน้านี้ก็ระบุว่าหากฝนตก จะแก้ไขโดยใช้ผ้าปิดไม่ให้กากแร่ถูกน้ำ
เช้ามืดวันนี้รถขนกากแคดเมียมจาก จ.สมุทรสาคร รอบที่ 2 ล่าสุดมาถึงที่โรงพักคอยที่ จ.ตาก เป็นที่เรียบแล้ว
ส่วนประเด็นอื่น ๆ โดยเฉพาะพื้นของโรงพักคอย ที่ภาคประชาชนตั้งคำถามก็มีการแก้ไข โดย การบดอัดดินลูกรัง ที่มีการทดสอบจากนักวิชาการว่าสามารถรองรับน้ำหนักได้ ขณะที่การป้องกันการรั่วซึม ยังมีแผ่นปูถึง 2 ชั้นป้องกันการซึมไปในดิน และยังมีระบบรางดูดน้ำไปบำบัด อย่างไรก็ตาม แม้การขนแร่มาที่จุดพักคอย ที่ จ.ตาก จะทยอยขนมาเป็นรอบที่ 2 แล้ว
ประเด็นนี้ยังคงต้องติดตาม เพราะก่อนหน้านี้ภาคประชาชน ได้ยื่นฟ้องกับศาลปกครองพิษณุโลก ให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว เพื่อระงับการขนแร่จนกว่าจะมั่นใจว่ามาตรการต่าง ๆ สามารถป้องกันว่ากากแร่จะไม่รั่วไหล ส่งผลกระทบกับชุมชน ซึ่งวันนี้ (7 เม.ย.67) เวลาบ่ายโมงศาลได้นัดไต่สวนเป็นนัดแรก
อ่านข่าว
อธิบดี กพร. ยืนยันขน "กากแคดเมียม" เข้าโกดังพักเป็นไปตามมาตรฐาน
ถึงตากแล้ว! กากแคดเมียมชุดแรก จากสมุทรสาคร-กทม. 258 ตัน
บก.ปทส.นับ “กากแคดเมียม” สมุทรสาคร ก่อนส่งกลับ จ.ตาก
<< Previous Next >>
Mon, 6 May 2024 16:47:34
วันนี้ (6 พ.ค.2567) ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส ติดตามการขนย้าย "กากแคดเมียม" ออกจากพื้นที่ จ.สมุทรสาคร กลับไปยังปลายทางที่ จ.ตาก โดยรถบรรทุกแบบมีตู้คอนเทนเนอร์ คันที่ 8 ขับเข้าไปด้านในโรงงาน เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด ใน ต.บางน้ำจืด อ.เมือง เป็นคันสุดท้ายเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. เพื่อไปรับกากแคดเมียมที่จะขนย้ายออกจากโรงงาน พร้อมกับรถบรรทุกพ่วงคอนเทนเนอร์รวมทั้งหมด 8 คัน ที่คณะทำงานร่วม 6 ฝ่ายกำหนดให้เอกชนจัดหามาเพื่อขนส่งกากแคดเมียม
ขณะที่นายอดิทัต วะสีนนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ลงพื้นที่ภายในโรงงาน พร้อมด้วยนายพุทธิกรณ์ วิชัยดิษฐ อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร และคณะ เพื่อตรวจสอบขั้นตอนการขนย้ายกากแคดเมียม
พร้อมระบุว่า เบื้องต้นคาดว่าจะบรรทุกได้คันละ 18 ถุงบิ๊กแบ็ค หรือประมาณ 25-30 ตัน โดยรถบรรทุกพ่วงคอนเทนเนอร์ 8 คันจะขนกากแคดเมียมรวมประมาณ 240-250 ตัน ซึ่งเป็นจำนวนที่ใกล้เคียงกับล็อตแรกที่ขนส่งไปก่อนหน้านี้
อ่านข่าว
พบศพ "เก่ง สุขุม" นักเตะสโมสรดัง ลอยแม่น้ำบางปะกง
ด่วน! กระบะ จนท.ดับไฟป่าพลัดตกเขาจอมทอง บาดเจ็บ 14 คน
"ภูมิธรรม" ขนทัพสื่อ-ผู้ส่งออก บุกโกดังข้าว 10 ปี ยันกินได้
<< Previous Next >>
Sun, 5 May 2024 14:41:00
วันนี้ (5 พ.ค.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ช่วยเหลือลูกช้างป่าตกบ่อโคลน หลังร่วมกันออกลาดตระเวนบริเวณป่าลำน้ำเขียว ท้องที่ ต.บ้านราษฎร์ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา เวลาประมาณ 16.44 น.ของวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา และพบลูกช้างป่า 1 ตัว อายุประมาณ 2-3 ปี
ภาพจาก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช
ล่าสุด กลุ่ม "SAVEฅนSAVEช้าง" มีการแจ้งข้อมูลผ่านเฟซบุ๊กว่า กลุ่มฯ ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่หน้างานและทราบว่าขณะนี้โขลงช้างมารับลูกช้างกลับไปได้อย่างปลอดภัย
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่พยายามช่วยเหลือด้วยการตัดกิ่งไม้วางพาดเพื่อให้ลูกช้างป่าปีนขึ้น แต่ลูกช้างป่าไม่สามารถปีนขึ้นมาจากบ่อโคลนได้ เจ้าหน้าที่จึงปรับแผนการลาดตระเวนและขอกำลังสนับสนุนและนำอุปกรณ์ที่จำเป็นเข้าไปเพื่อช่วยเหลือลูกช้างป่า
ภาพจาก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช
เจ้าหน้าที่ได้ขุดปากบ่อที่จะให้ลูกช้างป่าปีนขึ้นมา แต่สภาพบ่อเป็นโคลนลึก ยากต่อการช่วยเหลือ อีกทั้งยังพบร่องรอยของแม่ช้างที่วนเวียนอยู่บริเวณโดยรอบ เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าสังเกตการณ์และเตรียมการช่วยเหลืออีกครั้ง กระทั่งมีรายงานว่า แม่ช้างมารับลูกช้างกลับเข้าโขลงแล้ว
ภาพจาก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช
อ่านข่าว
จับหมีคืนสู่ป่า หลังพลัดหลงเข้าในวัดป่าภูหายหลง จ.นครราชสีมา
"สมุทรสาคร" ประกาศเขตประสบสาธารณภัยไฟไหม้โรงงานกระดาษ
อธิบดี กพร. ยืนยันขน "กากแคดเมียม" เข้าโกดังพักเป็นไปตามมาตรฐาน
<< Previous Next >>
Sun, 5 May 2024 09:45:58
เมื่อวันที่ 4 พ.ค.2567 อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) หน่วยงานท้องถิ่น นักวิชาการ ตัวแทนโรงงาน บริษัทขนส่งแร่ และตัวแทนชาวบ้าน ร่วมตรวจสอบความพร้อมของอาคารพื้นที่พักคอยกากแคดเมียม
จุดหลัก คือ พื้นดินที่รองรับแร่ ระบบป้องกันการรั่วซึม และระบบรางระบายน้ำ ก่อนที่ทั้งหมดจะออกจากอาคาร และพูดคุยกันบริเวณทางเข้า-ออกอาคาร ตัวแทนชาวบ้าน ระบุว่า ยังติดใจหลังคาของอาคารรั่ว โดยกังวลว่า เมื่อฝนตกจะส่งผลกระทบโดยตรง แร่อาจรั่วซึมไปกับน้ำได้ เพราะการขนส่ง ใช้เวลานานกว่า 2 เดือน ในช่วงหน้าฝน จึงขอคำยืนยันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงความปลอดภัย ขณะที่ ผู้ประกอบการขนส่ง เรียกร้องให้ทั้ง 2 ฝ่าย เร่งหาข้อสรุป เพราะได้รับความเสียหายจากการต้องจอดรถทิ้งไว้โดยไม่ได้รับค่าจ้าง
ด้านอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ระบุว่า เรื่องหลังคาที่กังวลมีการคุยในคณะทำงานที่ประชุมแล้ว หากซ่อมโรงงานอาจกังวลเรื่องความปลอดภัย ยืนยันว่า มาตรการต่างๆ จะสามารถป้องกันได้
ช่วงหนึ่งระหว่างการพูดคุยทำข้อตกลงกับชาวบ้าน เพื่อเคลื่อนย้ายกากแคดเมียมเข้าโกดังพักคอย ท่ามกลางอากาศร้อนจัด
อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เกิดอาการคล้ายเป็นลมแดด ซึ่งภายหลังอาการดีขึ้นแล้ว ได้กลับมาเจรจากับชาวบ้านอีกครั้ง โดยได้ข้อสรุปว่าให้ขนย้ายกากเข้าโกดังพักคอยได้ตามแผน และให้เริ่มดำเนินการได้ทันที
ส่วนกรณีที่ ภาคประชาชน ยื่นเรื่องต่อศาลปกครองพิษณุโลก เพื่อให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ศาลปกครองนัดไต่สวนนัดแรกวันที่ 7 พ.ค.นี้
จัดระเบียบบิ๊กแบ็กในสมุทรสาครรอย้ายไป จ.ตาก
ที่ จ.สมุทรสาคร โรงงาน เจ แอนด์ บี เมททอล เร่งทำแผ่นปิดล้อมโกดังเก็บบิ๊กแบ็กบรรจุกากแคดเมียม เพื่อรอการขนย้ายไป จ.ตาก การเคลื่อนย้ายที่เกิดขึ้นภายในโรงงาน มีเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย คอยตรวจสอบขั้นตอนการขยับย้ายของกลาง ซึ่งบางส่วนเสี่ยงเปียกฝน หรือปนเปื้อนไปยังสิ่งแวดล้อม สำหรับการขนย้ายล็อตที่ 2 ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนจากคณะทำงาน 6 ฝ่ายของกระทรวงอุตสาหกรรม
อ่านข่าวอื่น :
แจ้งความ "วิน โพรเสส" เพิ่ม ซุกสารเคมีกลางเมือง "ระยอง"
สภาพอากาศวันนี้ เตือน ปชช. "ไทยตอนบน" เจอพายุฤดูร้อน
<< Previous Next >>
Sun, 5 May 2024 09:00:51
วันนี้ (5 พ.ค.2567) สภาพภายในโรงงานเก็บกากสารเคมีอุตสาหกรรมวินโพรเสส อ.บ้านค่าย จ.ระยอง จะเห็นว่าหลังไฟไหม้มีสารเคมีรั่วไหลลงสู่บ่อน้ำภายในโรงงาน และมีสภาพน้ำที่ปนเปื้อนสารเคมี ซึ่งเป็นข้อกังวลของชาวบ้าน ว่าหากเกิดฝนตกลงมา น้ำเสียเหล่านี้จะไหลซึมลงไปในพื้นดิน ไปรวมกับแหล่งน้ำสาธารณะ
ขณะที่ รถแบ็กโฮหลายคัน เร่งขุดบ่อน้ำจำนวน 3 บ่อ ภายในโรงงาน และเสริมคันดินรอบบ่อให้สูงขึ้น เตรียมความพร้อมรับมือ ป้องกันไม่ให้สารเคมีภายในโรงงานรั่วไหลออกนอกพื้นที่
นายก อบจ.ระยอง บอกว่า ก่อนหน้านี้ขุดไปแล้ว 2 บ่อ แต่ไม่เพียงพอ เพราะบ่อที่ขุดแล้วก็พบว่ามีน้ำสารเคมีซึมทะลักเข้าถึงแล้วทุกบ่อ ทำให้ต้องวางแผนการขุดบ่อเพิ่มเติมเพื่อกักเก็บน้ำทั้งหมด ให้แล้วเสร็จก่อนที่ฝนจะตกลงมา แต่สิ่งที่กังวลต่อมาคือ กากสารเคมีทั้งหมดที่เคยมีหลังคาคลุมไว้ เมื่อหลังคาถูกไฟไหม้ไปแล้ว ถ้าฝนตกลงมา สารเคมีจะไหลไปไหน
ขณะที่ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมประชุมรับฟังปัญหากับผู้นำท้องถิ่น ชาวบ้านในพื้นที่ และลงพื้นที่สำรวจภายในโรงงาน บอกว่ารับไม่ได้กับสภาพที่ชาวบ้านกำลังเผชิญอยู่ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องสุขภาพ จะนำข้อเรียกร้องของชาวบ้าน ไปสะท้อนให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาโดยด่วน
แจ้งความ "วิน โพรเสส" เพิ่มซุกสารเคมีกลางเมืองระยอง
ไม่เพียงแต่พื้นที่ อ.บ้านค่าย แต่ภายใน ซ.วัดโขดหิน ต.มาบตาพุด ใจกลาง อ.เมืองระยอง ยังพบโรงงานเก็บสารเคมีเช่นเดียวกัน โดยเป็นของบริษัท วิน โพรเสส จำกัด แต่ปิดกิจการไปหลายปีแล้ว
เมื่อตรวจสอบภายในยังพบสารเคมีจำนวนมาก กระจายเก็นอยู่ใน 2 โกดัง ลักษณะเดียวกับโรงงานที่เกิดเพลิงไหม้ มีป้ายเขียนกำกับชื่อสารเคมี ประกอบด้วย สารเมทานอล น้ำมันเตา และกากตะกอนน้ำมัน ผวจ.ระยอง สั่งแจ้งความกับเจ้าของข้อหาครอบครองวัตถุอันตราย และให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบว่ามีสารเคมีอันตรายประเภทใดบ้าง ก่อนจะขนย้ายออกจากพื้นที่ ป้องกันเหตุไฟไหม้ซ้ำ
ส่วนความคืบหน้าการสอบสวนหาสาเหตุเพลิงไหม้ บริษัท วิน โพรเสส ที่ ต.บางบุตร ขณะนี้สอบปากคำพยานไปแล้ว 20 คน อยู่ระหว่างออกหมายเรียกเจ้าของโรงงาน มารับทราบข้อกล่าวหา เบื้องต้น แจ้งข้อหาความผิดฐานกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ทรัพย์สินเสียหาย และเป็นอันตรายแก่ชีวิตบุคคลอื่น
อ่านข่าวอื่น :
รพ.นครพิงค์ พบหนอนในจมูกคนไข้นับร้อยตัว เตือนรีบรักษา
ไฟไหม้โรงงานรีไซเคิลกระดาษ จ.สมุทรสาคร เร่งคุมเพลิง
ผู้ว่าการ กฟน.แสดงความเสียใจครอบครัวชายตกท่อ มอบเงินช่วยเหลือ 5 หมื่นบาท
<< Previous Next >>
Sat, 4 May 2024 18:00:00
วันนี้ (4 พ.ค.2567) นายมณฑล ตันติศักดิ์ชัยชาญ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา) ได้รายงานต่อผู้บังคับบัญชา กรณีติดตามการรับแจ้งเหตุ “สายด่วนพิทักษ์ป่า 1362” ลงวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2567 เวลา 23.30 น. กรณีได้รับแจ้งว่า มีหมีจำนวน 2 ตัว เข้ามาสร้างความเดือดร้อน บริเวณวัดป่าภูหายหลง ต.วังกะทะ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ขอให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช สั่งเจ้าหน้าที่ออกไปดำเนินการผลักดันหมีดังกล่าวกลับคืนสู่ธรรมชาติด่วน
ภารกิจนี้เริ่มต้นเมื่อ วันที่ 21 เม.ย.2567 เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าป่าเขาภูหลวง และเจ้าหน้าที่ฐานปฏิบัติการป้องกันรักษาป่าที่ นม 4 (เขาภูหลวง) ได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณโดยรอบของวัดป่าภูหายหลง ต.วังกะทะ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พบร่องรอยของหมีจริง ได้แก่ รอยตีน และรอยเล็บบนต้นไม้ พร้อมได้ดูภาพถ่ายและคลิปวีดีโอที่ถ่ายโดยพระลูกวัด พบว่าเป็นหมีควาย ไม่ทราบเพศ ตัวเต็มวัย กำลังเดินหากินตามกุฏิพระในเวลากลางคืน
“สายด่วนพิทักษ์ป่า 1362 ได้รับแจ้งว่า มีหมีจำนวน 2 ตัว เข้ามาในวัดป่าภูหายหลง จ.นครราชสีมา จึงขอให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ ดำเนินการผลักดันหมีดังกล่าวกลับคืนสู่ธรรมชาติ
ทางวัดป่าภูหายหลงและประชาชนที่อยู่โดยรอบมีความหวาดกลัวว่า จะถูกหมีทำร้าย เนื่องจากมีรายงานว่าหมีได้ลงจากพื้นที่ป่าไปหากินในพื้นที่อยู่อาศัยของประชาชนด้วย
อ่านข่าว : ช่วย "2 ลูกหมีควาย" คลองวังเจ้า ส่งดูแลที่ "ห้วยขาแข้ง"
จากข้อมูลคำบอกเล่าของประชาชนในพื้นที่ระบุว่า ไม่เคยพบหมีในพื้นที่มาก่อน คาดว่า มีหมีเข้ามาอยู่ในพื้นที่ประมาณ 2 - 3 ตัว เป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่ามีหมีในพื้นที่จริงจำนวนกี่ตัว จึงได้รายงานข้อมูลให้ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา) พิจารณาดำเนินการ
ต่อมา วันที่ 22 เม.ย.2567 ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา) ได้พิจารณาข้อมูลที่เกี่ยวข้องแล้ว เห็นว่าบริเวณวัดป่าภูหายหลง มีพื้นที่ป่าธรรมชาติค่อนข้างน้อย ประมาณ 135 ไร่ (ป่าธรรมชาติรวมบริเวณวัด) มีลักษณะเป็นหย่อมป่า มีกิจกรรมของมนุษย์จำนวนมาก และอยู่ใกล้แหล่งชุมชน ไม่มีเหมาะสมที่จะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของหมี
ทั้งนี้ หมีดังกล่าวอาจเดินพลัดหลงมาจากพื้นที่หย่อมป่าอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียง หรือพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หากปล่อยไว้ไม่มีการจัดการอาจเกิดอันตรายต่อประชาชนและตัวหมีได้ จำเป็นต้องดำเนินการจับหมีดังกล่าวเพื่อนำไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติในที่ที่มีความเหมาะสมและปลอดภัย
จึงมอบหมายให้ฝ่ายจัดการพื้นที่อนุรักษ์สัตว์ป่า, ฝ่ายจัดการสุขภาพสัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าป่าเขาภูหลวง พร้อมประสานอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่ ขญ 3 (ตะเคียนงาม) ร่วมดำเนินการตั้งกรงดักหมี บริเวณพิกัด UTM (WGS84) zone47P 777874E 1608236 N และมีการตรวจเช็กกรงดักทุกวัน
จนท.ได้ติดตั้งกรงดักและหมีได้ติดกรงดัก เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบ พบว่าเป็นหมีควาย เพศผู้ ตัวเต็มวัย น้ำหนักประมาณ 120 กก.ยังมีสัญชาตญาณความเป็นสัตว์ป่า สุขภาพแข็งแรง
ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา) ได้ประสานอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่อยู่ใกล้ที่สุด ห่างจากวัดป่าภูหายหลงราว 6.5 กม.ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีรายงานการกระจายพันธุ์ของหมีควาย เพื่อสำรวจและจัดเตรียมพื้นที่ปล่อยหมีควายคืนสู่ธรรมชาติ โดยอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้กำหนดจุดปล่อยหมีบริเวณดงยาง ภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเหมาะสมต่อหมีและไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศ มีขนาดพื้นที่เพียงพอที่จะรองรับหมีที่จะปล่อยคืนสู่ธรรมชาติได้
จนท.เคลื่อนย้ายหมีควายตัวดังกล่าวไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติบริเวณดงยาง อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่ได้มีการสำรวจและจัดเตรียมพื้นที่ไว้แล้ว การปล่อยเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ล่าสุด วันที่ 4 พ.ค.2567 เวลาประมาณ 06.00 น. ตรวจพบว่า หมีได้ติดกรงดัก คณะเจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบ พบว่าเป็นหมีควาย เพศผู้ ตัวเต็มวัย น้ำหนักประมาณ 120 กก.เป็นชนิดสัตว์ป่าที่มีการกระจายพันธุ์ในพื้นที่ที่พบ และยังมีสัญชาตญาณความเป็นสัตว์ป่า มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีอาการบาดเจ็บ ป่วยหรืออ่อนแอ
จนท.เคลื่อนย้ายหมีควายตัวดังกล่าวไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติบริเวณดงยาง อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่ได้มีการสำรวจและจัดเตรียมพื้นที่ไว้แล้ว การปล่อยเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
จากสภาพโดยรวมไม่ปรากฎร่องรอยของโรคต่างๆ แต่อย่างใด คณะเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วเห็นว่า หากปล่อยหมีควายตัวดังกล่าวคืนสู่ธรรมชาติจะสามารถดำรงชีวิตต่อไปได้และเกิดประโยชน์ต่อระบบนิเวศ จึงได้เคลื่อนย้ายหมีควายตัวดังกล่าวไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติบริเวณดงยาง ภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่ได้มีการสำรวจและจัดเตรียมพื้นที่ไว้แล้ว โดยการปล่อยเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หมีควายสามารถวิ่งเข้าป่าได้อย่างปลอดภัย เจ้าหน้าทุกนายไม่ได้รับบาดเจ็บจากการดำเนินการแต่อย่างใด
อ่านข่าว
ห้วยขาแข้ง บ้านใหม่ "กองทัพ-น้ำเมย" ลูกหมีควายถูกลอบข้ามแดน
ช่วย "ลูกหมีควาย" 2 ตัวถูกลอบนำข้ามแดน ส่งไปดูแลที่ห้วยขาแข้ง
เสียแขนขวา "หนุ่มสวิส" ถูกหมีควายกัดแขนยอมตัดเอาตัวรอด
<< Previous Next >>
Sat, 4 May 2024 11:35:00
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกมาเป็นเวลาอันยาวนาน ซึ่งส่งผลให้อุณหภูมิสูงขึ้น และเกิดสภาพอากาศแปรปรวน (climate change)
จากข้อมูลปี 2023 ระบุว่า โลกมีอุณหภูมิร้อนกว่ายุคก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรมประมาณ 1.48 องศาเซลเซียส
ขณะที่อุณหภูมิน้ำทะเลสูงสุดเช่นกัน เมื่อน้ำร้อนก็ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ปะการัง ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ทำให้เกิดปะการังฟอกขาว องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ (National Oceanic and Atmospheric Administration) หรือ NOAA ได้ประกาศว่าเป็นปะการังฟอกขาวครั้งที่ใหญ่ที่สุด เป็นครั้งที่ 4 ในประวัติศาสตร์
สำหรับปะการังฟอกขาว เป็นสภาวะที่ปะการังสูญเสียสาหร่ายเซลล์เดียวที่อาศัยอยู่ภายในเนื้อเยื่อ ทำให้ปะการังอ่อนแอเพราะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอและปะการังอาจตายไปในที่สุดถ้าหากไม่สามารถทนต่อสภาวะนี้ได้
อ่านข่าว : โลกเดือด! อุณหภูมิไทยแตะ 43 องศาฯ ปะการังฟอกขาว
facebook : Thon Thamrongnawasawat
4 ระดับ "ปะการังฟอกขาว"
ล่าสุดวันนี้ (4 พ.ค.2567) ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม และอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ระบุว่า ปะการังในทะเลไทยกำลังฟอกขาวรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ปะการังจะแสดงอาการผิดปรกติเมื่อน้ำร้อนเกิน 30.5-31 องศาฯ ระยะเวลาเร็วช้าขึ้นกับว่าน้ำร้อนกว่าเส้นวิกฤตแค่ไหน
น้ำทะเลตลอดเดือนเมษายน ร้อนเกินวิกฤตทั้งกลางวันและกลางคืน ซึ่งปะการังแต่ละชนิดทนร้อนไม่เท่ากัน
เมื่อน้ำร้อนจัด เกิดความผิดปรกติ ปะการังเริ่มปล่อยตัวช่วยออกไปจากเนื้อเยื่อ ซูแซนเทลลีทำให้ปะการังมีสีสัน เมื่อปล่อยออกไป ปะการังนอกจากอดได้พลังงาน ยังมีสีซีดจางลง ตามขั้นตอนต่อไปนี้
- เลเวลหนึ่ง ปะการังมีสีซีดจาง บอกว่าแย่แล้ว เริ่มปล่อยซูแซนเทลลีแล้วนะ
- เลเวลสอง สีเริ่มเปลี่ยนไป กลายเป็นสีแปลกๆ สวยดีแต่แย่หนัก ใกล้เข้าห้องไอซียู
- เลเวลสาม กลายเป็นสีขาว ผู้ช่วยโดนเลย์ออฟหมดแล้ว ปี๊ป่อมารับ ปะการังเข้าห้องไอซียู ตอนนี้ต้องขึ้นกับโชคชะตาว่าฝนจะตกน้ำจะเย็นลงไหม
หากฟ้าทะเลเป็นใจ ปะการังอาจฟื้นกลับมา รับผู้ช่วยที่มีอยู่ในน้ำอยู่แล้ว ให้กลับมาทำงานในเนื้อเยื่อ ปะการังอาจฟื้นได้
- เลเวลสี่ เผาจริง ตายแล้วตายลับ น้ำจะร้อนจะเย็น ฉันก็ไปสวรรค์แล้ว
อย่างไรก็ตาม ปะการังอาจตายเพียงบางส่วน เช่นในภาพ หากน้ำเย็นลงทัน ปะการังส่วนอื่นๆ ยังรอด ตัวปะการังอาจค่อยๆ ลามมา หรือแม้แต่ตายทั้งก้อน ยังเป็นฐานให้สัตว์อื่นลงเกาะ รวมถึงลูกปะการังเกิดใหม่
แต่ถ้าทะเลเดือดรุนแรง พ่อแม่ตายเยอะ ลูกก็เหลือน้อย
ทุกอย่างพัวพันเป็นลูกโซ่ โลกยิ่งร้อน คนยังคงซ้ำเติมทะเล ปะการังในโลกจะตกอยู่ในภาวะวิกฤต
การศึกษาล่าสุดพบว่า หากโลกร้อนเกิน 1.5 องศา ปะการัง 99% ในโลกอาจหมดไป (world economic forum)
ปีที่แล้ว โลกร้อนขึ้น 1.48 องศา ซึ่งอาจเหลือเวลาเพียง 5-6 ปี ที่จะหยุดโลกไม่ให้ร้อนเกิน 1.5 องศาฯ
facebook : Thon Thamrongnawasawat
ทะเลร้อน ปะการังฟอกขาวยังไม่จบ
ผศ.ดร.ธรณ์ เปิดเผยภาพผลสำรวจ แนวปะการัง จ.ตราด 8 แห่ง พื้นที่หมู่เกาะหมาก 6 แห่ง-เกาะผี เกาะขาม เกาะกระดาด เกาะหมากตะวันตกเฉียงเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และทางใต้หมู่เกาะกูด 2 แห่ง–เกาะแรดและแนวปะการังกลางน้ำ ผ่านเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat พบว่าสถานการณ์ฟอกขาวยังไม่จบ ทะเลยังร้อนอยู่ โดยระบุเป็นความเสี่ยง 3 ระดับ ดังนี้
- เสี่ยงมาก เป็นแนวปะการังติดฝั่ง เช่น รอบๆ เกาะหมาก เกาะกระดาด เกาะขามบริเวณนี้น้ำตื้น ไหลเวียนไม่ค่อยดี น้ำร้อนและโดนแดดเยอะ ยังเป็นเขตฟอกขาวซ้ำซ้อน ส่วนหัวตายตามที่เคยเล่าไว้ ปะการังมีชีวิตพบเฉพาะด้านข้างและกำลังฟอกขาวตรงขอบแนวน้ำลึกหน่อย ปะการังมีชีวิตทั้งก้อน แต่ด้วยน้ำที่ร้อนจัด ทำให้ส่วนใหญ่เปลี่ยนสี และบางส่วนเริ่มฟอกจนเป็นสีขาวทั้งก้อน
facebook : Thon Thamrongnawasawat
- เสี่ยงปานกลาง เกาะแรด อยู่ลึกกว่า น้ำไหลไปมาได้ แต่มีปะการังเขากวางที่ไม่ค่อยทนต่อการฟอกขาว อีกทั้งยังมีการท่องเที่ยว
- เสี่ยงน้อย เกาะผี น้ำไหลเวียนดี น้ำลึก ฟอกขาวแค่บางชนิด การท่องเที่ยวควบคุมดี
อย่างไรก็ตาม ปะการังทนมาจนใกล้ถึงลิมิต หากน้ำร้อนต่อไปอีก 1-3 สัปดาห์ เราจะเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก
สำหรับปะการังที่เสี่ยงสูงจะรอดยากขึ้น พวกเสี่ยงปานกลางอาจมีปะการังบางกลุ่มตาย ในขณะที่เสี่ยงน้อยยังพอไหว แต่สภาพจะโทรมลงกว่านี้
อ่านข่าว : NOAA ประกาศโลกเผชิญภาวะ "ปะการังฟอกขาวครั้งใหญ่" รอบที่ 4
ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ภาพ : คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
54 ประเทศทั่วโลกเผชิญปัญหาปะการังฟอกขาว
ผศ.ดร.ธรณ์ เปิดเผยว่า ปะการังฟอกขาวเกิดขึ้นมาหลายครั้ง ซึ่งประวัติศาสตร์มีอยู่ 4 ครั้งเท่านั้นซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 และมี 54 กว่าประเทศ ใน 3 มหาสมุทร ทั้ง แปซิฟิก แอตแลนติก อินเดีย ที่กำลังเผชิญกับปะการังฟอกขาว
บางประเทศเกิดขึ้นไปแล้ว บางประเทศกำลังเริ่มจะเกิดอย่างรุนแรง รวมถึงประเทศไทยด้วย
facebook : Thon Thamrongnawasawat
เช่น ทะเลฝั่งอ่าวไทย หาดเจ้าหลาว จ.จันทบุรี เกาะช้าง เกาะหมาก เกาะกระดาด จ.ตราด เกิดปะการังฟอกขาว 30-50% บางพื้นที่ เกิน 50% ถ้าปัญหาไม่รุนแรงต่อเนื่อง ปะการังฟอกขาวก็อาจจะฟื้นได้ โดยปะการังติดฝั่ง ได้รับผลกระทบสูงสุด เพราะน้ำตื้นและร้อน
ล่าสุด เดือน พ.ค.อุณหภูมิน้ำทะเลสูงถึง 34-35 องศาฯ ถือว่าร้อนที่สุดตั้งแต่มีการบันทึกมา และถ้ายังร้อนต่อเนื่องอีกประมาณ 10 วัน โอกาสที่ปะการังฟอกขาวไปแล้วกลับมาฟื้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ ทั้งนี้ระยะเวลาจะขึ้นอยู่กับปะการังแต่ละชนิด ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ สัตว์น้ำ ไม่เว้นแต่มนุษย์ด้วย
ผศ.ดร.ธรณ์ ยังกล่าวว่า ถ้าฝนเริ่มตก และตกอย่างต่อเนื่องจะทำให้อุณหภูมิน้ำทะเลลดลง
ถ้าฝนตกต่อเนื่อง ทำให้อุณหภูมิน้ำทะเลลดเหลือ 29-30 องศาฯ อาจจะมีโอกาสรอดได้
ผศ.ดร.ธรณ์ ระบุว่า ถึงแม้ปรากฏการณ์เอลนีโญจะจบเดือนพฤษาคมนี้ แต่ผลกระทบยังไม่หมดยังส่งผลกระทบต่ออีก 1-2 เดือน
อ่านข่าว :
ทะเลอ่าวไทยอุ่นขึ้น 1 องศาฯ จับตา 3 เดือนเสี่ยงปะการังฟอกขาว
สภาพอากาศวันนี้ ทั่วไทย อากาศร้อนถึงร้อนจัด ระวังฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรง
<< Previous Next >>
Fri, 3 May 2024 17:56:00
ความคืบหน้ากรณีพระศรีสัจญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดห้วยหินฝน รองเจ้าคณะจังหวัดชัยภูมิ และผอ.วิทยาลัยสงฆ์ชัยภูมิ ทำหนังสือชี้แจง หลังตกเป็นข่าวขึ้นไปล่าสัตว์ในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จ.ชัยภูมิ
วันนี้ (3 พ.ค.2567) นายวิชานนท์ แสนผาลา หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จ.ชัยภูมิ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน ที่ตรวจยึดได้จากการตรวจค้นกุฎิรองเจ้าคณะจังหวัดชัยภูมิ และพบเมมโมรีการด์กล้องถ่ายภาพ
ซึ่งจากการตรวจสอบพบภาพเหตุการณ์ที่เข้าไปในป่า พร้อมกลุ่มนายพรานจึงตรวจยึดไว้ เพื่อหาความเชื่อมโยงในการกระทำผิด พร้อมระบุกลุ่มขบวนการเป็นพรานป่าในชุมชนที่มีพฤติกรรมลักลอบขึ้นไปหาของป่ามาขาย และ 1 ในพรานป่าเป็นญาติของรองเจ้าคณะจังหวัด ยืนยันเอาผิดกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด
อ่านข่าว รองเจ้าคณะจว.เข้ารับทราบ 3 ข้อกล่าวหาคดีล่าสัตว์ภูเขียว
ขณะนี้เหลือเพียงให้ชุดพญาเสือ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าไปเก็บหลักฐานในจุดเกิดเหตุ ซึ่งอยู่ระหว่างหาพิกัดโดยจะใช้เฮลิคอปเตอร์ตรวจจุดตั้งแคมป์ของพรานป่าที่เข้าไปก่อเหตุคาดจะลงพื้นที่ได้ในสัปดาห์หน้า
นายวิชานนท์ แสนผาลา หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จ.ชัยภูมิ
ขณะที่ชาวบ้านคลองเจริญ ต.นางแดด อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ จับกลุ่มพูดคุยถึงประเด็นที่รองเจ้าคณะจังหวัดชัยภูมิ พร้อมพระสงฆ์ สามเณร รวมถึงฆราวาสและพรานป่า ซึ่งเป็นคนในชุมชนถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้จับกุม พร้อมซากสัตว์ป่าและแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาลักลอบเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันลักลอบล่าสัตว์ป่าและพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน
ชาวบ้านระบุว่า บ้านคลองเจริญเป็นชุมชนเล็กๆ ติดแนวเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว และยอมรับว่าในอดีตมีพรานป่าที่เข้าไปล่าสัตว์ 3-4 คน แต่ตอนนี้อายุมากแล้ว
ชาวบ้านจับกลุ่มปมแก๊งพระล่าสัตว์ป่าภูเขียว และพรานป่า
ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นยอมรับว่าเครียดมาก เนื่องจากรองเจ้าคณะจังหวัดชัยภูมิเป็นที่นับถือของคนในชุมชนและที่ผ่านมาก็เคยเข้าไปธุดงธ์และปฎิบัติธรรมในป่า โดยขอให้สังคมอย่าเพิ่งตัดสินและให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย
อ่านข่าวอื่นๆ
อัปเดตบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ พ.ค.2567 จ่ายอะไรบ้าง เงินเข้าวันไหน
มีคำตอบ! "สว.มีไว้ทำไม" หน้าที่-สิทธิ-อำนาจ สภาสูงชุดที่ 13
<< Previous Next >>
Fri, 3 May 2024 15:55:00
วันนี้ (3 พ.ค.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถบรรทุกแคดเมียม จำนวน 10 คันที่ขนย้ายมาจาก จ.สมุทรสาคร ยังไม่สามารถนำไปเข้าจุดพักคอยในโรงงานที่ จ.ตากได้ เพราะชาวบ้านที่อาศัยรอบโรงงานยังกังวลผลกระทบจากแคดเมียม
ขณะที่วันนี้แกนนำภาคประชาชน ตัวแทน ส.ส.ภาคก้าวไกล และกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ นำสื่อมวลชน เข้าไปตรวจสอบกระบวนการก่อสร้าง จุดพักคอยแร่แคดเมียม ภายใน โรงงานบริษัทเบาด์ แอนด์ บียอนด์ จํากัด (มหาชน) อ.เมือง จ.ตาก
ตัวแทนโรงงาน พาไปดูจุดพักคอยเเร่ ซึ่งเป็นอาคารเก่า มีหลังคาคลุม มีขนาดพื้นที่ประมาณ 2,200 ตารางเมตร
ส่วนพื้นตอนนี้มีการบดอัดด้วยดินลูกรัง มีการขุดเจาะพื้นดินโดยรอบ 8 จุดเพื่อดูการรองรับน้ำหนักของแร่
ขณะที่จุดที่บดอัดดินเสร็จแล้ว พนักงานจะปูทับด้วยผ้าปู HDPE และปิดทับอีกชั้นด้วยผ้าแผ่นดินเหนียวเทียม เพื่อป้องกันการรั่วไหลของของแดดเมียมระหว่างพักคอย
นายศุภโรฒน์ พรมทับ ตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชน ที่มาสังเกต เปิดเผยว่า พอใจกับการก่อสร้างที่มีการเรียกร้องไปก่อนหน้านี้ พร้อมกับย้ำว่าจะต้องดูว่าเมื่อก่อสร้างให้แล้วเสร็จก่อน จึงจะสามารถสรุปร่วมกันได้ ว่ามีความปลอดภัยพร้อมที่จะขนแร่หรือไม่
ชาวบ้านไม่ได้ค้านขนกลับ สิ่งที่กลัวคือได้มาตรฐานแค่ไหน รถ 10 คัน ตอนนี้มีมา 250 ตัน ของเศษๆ ที่มาจากสมุทรสาคร ชลบุรี กรุงเทพฯ คิดว่าต้องจัดการให้ดี ถ้าไม่ดีจะกระทบกับลูกหลาน
ด้านนายกฤชพล สังวังเหล่า ผจก.โครงการขนส่ง ตัวแทนบริษัทเบาด์ แอนด์ บียอนด์ จํากัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแผนการจัดการแร่แคดเมียม ว่า การขนส่งทุกขั้นตอน ได้พูดคุยกับกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อวางระบบขั้นตอนแล้ว
การทำงานที่ผ่านมาคำนึงถึงความปลอดภัย พร้อมกับเร่งทำระบบจุดพักคอย ป้องกันการรั่วไหลของแคดเมียม มีผ้าคลุม ระบบรางบำบัดน้ำเสียให้มีการขนส่งแร่กลับให้เร็วที่สุด ซึ่งระบบการขนส่งก่อนหน้านี้ที่มีปัญหา ก็อาจมีการปรับเปลี่ยนมาใช้ตู้คอนเทนเนอร์แทน
ส่วนขั้นตอนขนส่งเราได้คุยกับกระทรวงอุตสาหกรรม ตอนนี้ขนส่งทางบกมีปัญหา เราจะใช้ตู้คอนเทนเนอร์แทนยาว 42 เมตร บรรทุกเข้นมาข้างใน ส่วนขั้นตอนต่างๆยังเหมือนเดิม อยากให้พี่น้องประชาชนจังหวัดตากมั่นใจ ไม่มีเจตนาปิดบัง ซ้อนเร้น
ขณะเดียวกัน สำนักงานอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เขต 5 (พิษณุโลก) วันนี้ก็ได้เข้ามาตรวจสอบการวางมาตรการป้องกันจุดพักคอย และระบบรางระบายน้ำ ซึ่งหากมีการก่อสร้างแล้วเสร็จ จะส่งต่อจังหวัดพิจารณาร่วมในคณะทำงาน และขออนุมัติการขนส่งแร่ต่อไป
สำหรับการประเมินว่า จะสามารถขนแร่จากปลายทาง จ.สมุทรสาคร, ชลบุรี และกรุงเทพมหานคร กลับต้นทางที่ จ.ตาก ได้เมื่อใด ตอนนี้ต้องรอประชุมร่วมกับคณะทำงานทุกฝ่าย
โดยรถที่จะขนแร่กลับมาที่ จ.ตาก คาดว่าอาจจะต้องขนมากถึง 400 เที่ยว ซึ่งตอนนี้ขนมาได้เพียง 10 เที่ยวเท่านั้น ซึ่งรถที่ขนแคดเมียมทุกคนจะต้องมีใบอนุญาตขนกากของเสีย
บ่อฝั่งกลบแคดเมียมเป็นสิ่งที่ภาคประชาชนยังกังวล
ซึ่งจะใช้พื้นที่ขนาด 7,000-8,000 ลูกบาศก์เมตร กว้าง 30 เมตร ยาว 90 เมตร ลึก 30 เมตร จุดนี้จะต้องมีการหารือร่วมกันกับทุกฝ่ายอีกครั้ง เพราะภาคประชาชนยังมีความกังวลว่าอาจจะมีการรั่วซึมเกิดขึ้น
สำหรับการตรวจสอบผลกระทบสารเคมีรอบโรงงานก่อนหน้านี่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตาก ได้สุ่มตรวจกลุ่มตัวอย่างปัสสาวะ 2 ครั้ง ครั้งแรก 11 เม.ย.2567 จำนวน 16 ราย ครั้งที่สอง 30 เม.ย.2567 ตรวจ 18 คน ผลตรวจทั้งสองครั้งกลุ่มตัวอย่างปกติ และยังมีเก็บตัวอย่างข้าวเปลือก 6 ตัวอย่าง ยังไม่การปนเปื้อนของแดคเมียม
โกวิทย์ บุญธรรม ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส ศูนย์ข่าวภาคเหนือ
<< Previous Next >>
Fri, 3 May 2024 11:16:00
ความคืบหน้ากรณีไฟไหม้โกดังสารเคมี จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งขณะนี้ยังต้องเฝ้าระวังไฟไหม้ปะทุซ้ำ และเฝ้าระวังผลกระทบทางด้านสุขภาพ
วันนี้ (3 พ.ค.2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ลาออกจากตำแหน่งว่า รับทราบจากข่าว และมีการเชิญ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม มาพูดคุยในการขับเคลื่อนงานแล้ว แต่ไม่ได้พูดคุยกับอธิบดี หรือปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นหน้าที่ของ รมว.อุตสาหกรรมที่จะไปพูดคุย
ไม่แน่ใจว่า การกดดันให้ลาออก หมายความว่าอย่างไร แต่หากเป็นเรื่องการตามงาน สั่งงาน หรือให้ความสำคัญกับปัญหาที่เกิดขึ้น หากเป็นคนนั้นอาจจะกดดันส่วนตัวมองอีกแบบเน้นเรื่องเนื้องานเป็นหลัก
ส่วนที่มีการเชื่อมโยงถึงวันที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ จ.ระยอง นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ก็มีความชัดเจนเรื่องการสั่งงาน และมองว่า กรณีพบปัญหาอุตสาหกรรม และโรงงานสารเคมีหลายที่ไม่เกี่ยวกับการลาออก หรือไม่ลาออก แต่เป็นเรื่องของเนื้องานที่ต้องติดตามรากฐานของปัญหา และมีการเชื่อมโยงของปัญหาที่เกิดขึ้นหรือไม่
สั่งการให้สำนักงานตำรวจเข้าไปดูแล หลังจากที่รมว.อุตสาหกรรม ตั้งข้อสงสัยอาจเป็นการวางเพลิง เพื่อปกปิดเรื่องสารเคมี เรื่องนี้ได้ต่อสายกับหน่วยงานความมั่นคงแล้ว
ส่วนจะมีมาตรการอย่างไร ที่จะทำให้ผู้ประกอบการตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อย่าพูดไปไกลว่า ผู้ประกอบการไม่ตระหนักถึงเรื่องนี้ เพราะยังมีหลายบริษัทที่ให้ความสำคัญ ซึ่งก็ต้องดูความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เป็นกลุ่มบุคคลเดียวกันหรือไม่
การลงพื้นที่ของรัฐบาลที่มีการสั่งงาน ติดตามงาน ไม่ว่าจากตัวรัฐมนตรีอุตสาหกรรมเอง ที่ได้ให้ความสำคัญ และลงพื้นที่มาโดยตลอด และวันนี้ก็ได้เข้ามาทำเนียบรัฐบาลเพื่อขอความช่วยเหลือในเรื่องที่เกี่ยวกับความมั่นคง
อ่านข่าว : ปทส.จ่อออกหมายจับ "ผู้เช่าโกดังภาชี" พบพิรุธไฟไหม้สารเคมีซ้ำ
เร่งย้ายกากสารเคมีภาชีต้นมิ.ย.
นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยภายหลังการหารือถึงแนวทางในการกำจัดสารเคมี 4,000 ตัน ที่อยู่ในโกดัง ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจ ปทส. กรมโรงงานอุตสาหกรรม และเจ้าของโกดัง
สรุปแผนการเคลื่อนย้ายสารเคมี คือเตรียมกำจัดสารเคมีของกลางที่อยู่ในโกดังที่ 1-3 ก่อน โดยจะนำออกไปเข้าสู่กระบวนการบำบัด ส่วนในโกดังที่ 4 และ 5 ที่เกิดเพลิงไหม้ จะเข้าไปตรวจสอบและจำแนกประเภทของสารเคมีหลังจากเพลิงสงบ เพื่อวางแนวทางหาผู้เชี่ยวชาญมาดำเนินการกำจัดต่อไป ซึ่งกระบวนการจะเริ่มตั้งแต่เดือนมิ.ย. และแล้วเสร็จภายในเดือนก.ย.นี้
อ่านข่าว : "อิ๊งค์" ลั่นทำถูกแล้วตั้งรัฐบาลผสม ยันปรับ ครม.ถูกฝาถูกตัว
ตร.ประสาน "หญิงเมาขับ" รับทราบข้อกล่าวหาคดีค้างเก่า 9 พ.ค.นี้
<< Previous Next >>
Fri, 3 May 2024 08:10:00
เสือดาวมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Panthera pardus ซึ่งเป็นคำเดียวกับชื่อวิทยาศาสตร์ของ "เสือดำ" เพราะทั้งเสือดาวและเสือดำเป็นเสือชนิดเดียวกัน มีขนาดรูปร่างเหมือนกัน ต่างกันเพียงสีผิวกายภายนอกเท่านั้น โดยในประเทศไทยมีรายงานการกระจายของสัตว์ป่าในวงศ์เสือและแมวจำนวน 9 ชนิด ได้แก่ เสือกระต่าย เสือปลา แมวดาว แมวป่าหัวแบน แมวลายหินอ่อน เสือไฟ เสือลายเมฆ เสือดาว และเสือโคร่ง ซึ่งเสือดาวถือเป็นสัตว์ผู้ล่าที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ในป่าประเทศไทยรองจากเสือโคร่ง
เบื่อจัง นุดชอบคิดว่าเราเป็นคนละชนิดกับเสือดาว
สถานภาพปัจจุบันของเสือดาว-เสือดำ ถือเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 และจัดให้อยู่ในบัญชีหมายเลข 1 ของไซเตส คือชนิดพันธุ์ของสัตว์ป่าและพืชป่าที่มีสถานภาพใกล้สูญพันธุ์ ห้ามค้าโดยเด็ดขาด รวมทั้งไอยูซีเอ็น (IUCN) จัดให้ อยู่ในสถานะสัตว์ป่าที่มีความเสี่ยงขั้นอันตรายต่อการสูญพันธุ์ (Vulnerable) จากการบุกรุกทำลายพื้นที่ป่า ภัยพิบัติจากธรรมชาติ และการล่าอย่างหนักจากมนุษย์
สัตววิทยาของ "เสือดาว"
"เสือดาว" มีขนสีน้ำตาลอ่อนแกมเหลือง มีจุดดำทั้งตัว แต่บริเวณกลางตัวมีจุดดำเป็นกลุ่มๆ ที่เรียกกันว่า "รอยขยุ้มตีนหมา" หลังหูดำ มีจุดสีขาวนวลที่หลังหูเหมือนเสือโคร่ง อายุยืนราว 20 ปี
พวกเราชอบปีนต้นไม้
พบในแอฟริกาและเอเชีย ตั้งแต่แมนจูเรียลงมาถึงอินโดจีน ไทย มาเลเซีย และชวา สำหรับประเทศไทยพบตามป่าทั่วไปทั้งป่าทึบ ป่าโปร่งและป่าที่มีโขดหิน แต่พบมากทางภาคใต้ สามารถกินสัตว์ป่าทุกชนิดที่จับได้ เช่น หมู กวาง ลิง นกยูง สุนัข และแมลง บางครั้งปู ปลาก็กิน
นิสัยและพฤติกรรมของเสือดาว ทนร้อนได้ดีกว่าเสือโคร่ง ไม่ชอบอาบน้ำอย่างเสือโคร่ง ขึ้นต้นไม้เก่งกว่าเสือโคร่ง เป็นสัตว์ที่ว่องไวและดุ ปกติแล้วอยู่ตามลำพังตัวเดียว จะอยู่เป็นคู่ในระยะผสมพันธุ์เท่านั้น เสือดาวและเสือดำผสมพันธุ์ได้ตลอดปี และไม่มีฤดูผสมพันธุ์ที่แน่นอน ระยะเป็นสัดนาน 3-14 วัน ระยะตั้งท้องนาน 98-105 วัน ออกลูกครั้งละ 1-5 ตัว ลูกหย่านมเมื่อมีอายุ 6 สัปดาห์ ชอบกระโดดจากต้นไม้เพื่อจับเหยื่อบนพื้นดิน และลากเหยื่อขึ้นต้นไม้เพื่อกันไม่ให้สัตว์อื่นมาแย่ง
เราชอบนอน ไม่ชอบอาบน้ำ
เสือดาว-เสือดำ พี่น้องท้องเดียวกัน
เสือดาวและเสือดำ จัดเป็น "เสือชนิดเดียวกัน" เนื่องจากเสือดำมีความผิดปกติของเม็ดสีเป็นผลมาจากยีนด้อย ทำให้ส่วนที่ควรจะเป็นสีเหลือง กลับกลายเป็นสีดำ ทำให้เสือดำมีสีขนปกคลุมตามร่างกายด้วยสีดำ ซึ่งมีลายจุดเช่นเดียวกับเสือดาว เพียงแต่กลมกลืนกับสีขนทำให้มองเห็นได้ไม่ชัด แต่เมื่อเวลาเสือดำเดินผ่านแดดเราจะสามารถเห็นลายบนตัวได้
พวกเราคือพี่น้องท้องเดียวกันนะนุด
การผสมพันธุ์ของเสือดาว ลูกเสือที่เกิดใหม่ในครอกเดียวกัน อาจมีลูกเสือได้ทั้ง 2 แบบ คือ เสือดาวและเสือดำ แต่โอกาสที่จะเป็นเสือดาวมีมากกว่า
ขนที่สวยทำให้เสือดาว-เสือดำมักถูกล่าเอาหนังไปเป็นเครื่องประดับบารมี หรือล่าเอาเขี้ยวหรือเนื้อตามความเชื่อของผู้นิยมบริโภคสัตว์ป่า
เรามีลายนะนุด แค่ลายไม่ชัดสักเท่าไหร่เอง
อาณาจักรเสือกว้างเท่า "พัทยา"
ข้อมูลจาก มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ระบุว่า เสือเพศผู้หนึ่งตัวมีขนาดพื้นที่อาศัยประมาณ 267 – 300 ตร.กม. หรือประมาณ 187,000 ไร่ (ประมาณพื้นที่พัทยาทั้งหมด) นี่คือพื้นที่ของเสือตัวผู้ 1 ตัว
โดยในพื้นที่นั้นต้องมีเหยื่อที่อุดมสมบูรณ์ ประกอบไปด้วย กระทิง กวางป่า หมูป่า เก้ง และวัวแดง เป็นหลัก นี่คืออาหารของเสือ แต่ตัวเหยื่อเองก็มีความต้องการอาหารที่แตกต่างกัน นั้นทำให้ต้องมีอาหารที่แตกต่างกันไปตามแต่ละชนิดเหยื่อ และสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ พื้นที่อยู่อาศัยที่เพียงพอ เสือจึงจะอยู่รอดได้ในภาวะปกติ
การมีอยู่ของเสือจึงเป็นเหมือนตัวชี้วัด ที่บ่งบอกว่าป่ายังคงความอุดมสมบูรณ์เป็น "ป่าที่ยังเป็นป่า" ไม่ใช่พื้นที่ที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ การอนุรักษ์เสือให้คงอยู่ต่อไปก็เหมือนกับการดูแลผืนป่าทั้งผืนไปพร้อมกัน
หยุดเอาหนังพวกเราไปใส่เดี๋ยวนี้นะนุด
เพื่อเป็นการตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงสัตว์ป่าที่ตกอยู่ในสภาวะเสี่ยงอันตรายต่อการสูญพันธุ์ ดังนั้นเราทุกคนต้องช่วยกันอนุรักษ์เสือดาวและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในผืนป่าด้วยการไม่ทำลายแหล่งที่อยู่อาศัย แหล่งอาหาร ซึ่งจะนำไปสู่การคุกคามชีวิตของสัตว์ป่า เพราะทุกชีวิตในผืนป่าล้วนมีความสำคัญต่อระบบนิเวศ และต่างทำหน้าที่ของตนเองอย่างสุดกำลัง เพื่อรักษาไว้ซึ่งความสมดุล
ที่มา : พิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยา 50 พรรษา สยามบรมราชกุมารี, สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า, สวนสัตว์เชียงใหม่, มูลนิธิสืบนาคะเสถียร
อ่านข่าวอื่น :
ร้อนจัด-น้ำแล้ง "ปลาตายเกลื่อน" อ่างเก็บน้ำเวียดนาม
แล้งจัด! เกษตรกรสุดช้ำ "ลูกทุเรียน" ร่วงเสียหายกว่า 50 ล้านบาท
สถาบันวัคซีน แจงเกิดภาวะลิ่มเลือด-เกล็ดเลือดต่ำ จากวัคซีน AstraZeneca มีน้อย
<< Previous Next >>
Thu, 2 May 2024 17:28:00
ความคืบหน้ากรณีไฟไหม้โกดังสารเคมีในพื้นที่อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา จนต้องมีการอพยพผู้ป่วยและชาวบ้านออกจากพื้นที่
วันนี้ (2 พ.ค.2567) นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ลงพื้นที่พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 4 จ.สระบุรี เพื่อเฝ้าระวังสุขภาพประชาชน ที่อาจได้รับผลกระทบจากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมี
กรมควบคุมโรค ลงพื้นที่ตรวจสารมลพิษรอบโกดังไฟไหม้ภาชี แจ้งเตือนพบสารมลพิษ
จากการตรวจสอบยังพบก๊าซฟอสฟีน และก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ จึงขอเน้นย้ำผู้ปฏิบัติงาน และประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ และพื้นที่ใกล้เคียง ป้องกันตนเองโดยการสวมหน้ากาก N95 หรือหน้ากากอนามัยที่มีคาร์บอน ซึ่งสามารถดูดซับกลิ่นและแก๊สได้บางส่วน โดยสังเกตได้จากการมีสีเทาดำ
นพ.อภิชาต กล่าวอีกว่า กรมควบคุมโรค แนะนำให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ปฏิบัติตัว ดังนี้ คอยสังเกตความผิดปกติ หากพบเห็นควัน หรือได้กลิ่นผิดปกติ รีบแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที ปิดประตูหน้าต่างอาคารบ้านเรือนให้มิดชิด ถ้ายังได้กลิ่น ให้ไปอยู่ในที่โล่งที่มีอากาศบริสุทธิ์ในทิศเหนือลม
สวมหน้ากากอนามัยชนิดที่มีคาร์บอน หรือ N95 หากไม่มีให้สวมหน้ากากอนามัยปกติแล้วออกจากพื้นที่ทันที หากพบว่ามีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หายใจติดขัด มีเสียงหวีดในปอดหรือหมดสติ ให้รีบเคลื่อนย้ายไปยังที่ปลอดภัย อากาศถ่ายเทสะดวก และรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที
ส่วนผู้มีโรคประจำตัวที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ สังเกตอาการตนเอง หากมีอาการไอมากขึ้น หายใจมีเสียงหวีด และมีอาการผิดปกติอื่นๆ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
อ่านข่าว ราชทัณฑ์ เปิด 8 แนวทางปฏิบัติ คลายร้อน "ผู้ต้องขัง"
เร่งตรวจสอบโกดังเก็บสารเคมีไหม้
ด้านพล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 กล่าวว่า ชุดสืบสวน และกองพิสูจน์หลักฐาน อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน โดยไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง แต่ยังต้องใช้เวลาในการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุให้ได้มากที่สุด ก่อนจะออกมาสรุปสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ว่าเกิดจากอะไร
พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1
ส่วนผู้ที่เจ็บป่วยที่กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลภาชี และผู้ที่ได้รับผลกระทบในรัศมี 1 กม.ขณะนี้ทราบว่าผู้ว่าฯ พระนครศรีอยุธยา ได้มีการสั่งอพยพเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปไว้ในพื้นที่ปลอดสารเคมี เพื่อประเมินอาการและเตรียมการป้องกันไว้ก่อน
โดยมีผู้เชี่ยวชาญทุกหน่วยงานระดมเตรียมเครื่องมือเพื่อช่วยเหลือกัน โดยเฉพาะหน่วยงานที่เชี่ยวชาญการวิเคราะห์สารเคมี ส่วนพื้นที่เกิดเหตุ จะต้องให้ผู้เชียวชาญมาตรวจสอบสภาพอากาศอย่างละเอียดอีกครั้ง
อ่านข่าวอื่นๆ
ไฟไหม้สำนักงานจเรตำรวจฯ พฐ.เข้าตรวจสอบ-ไร้เจ็บ
ราคาทองคำ ภาคบ่ายร่วงต่อ ลบ 50 บาท คาดยังลงต่อเนื่อง
ตัวแรก ย้าย "พลายไข่นุ้ย" ตัวตึงกรุงชิง เข้าศูนย์บริบาลช้างป่า
<< Previous Next >>
Thu, 2 May 2024 14:50:00
วันนี้ (2 พ.ค.2567) เวลา 09.30 น. ร.อ.รชฏ พิสิษฐบรรณกร ผู้ช่วย รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายกลวัชร ทรัพย์ส่งสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายเผด็จ ลายทอง ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า นายเพิ่มศักดิ์ คงแก้ว ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาช้างป่า และ น.ส.แสงเดือน ชัยเลิศ ประธานมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมปล่อยช้างป่าพลายไข่นุ้ย (พลายเจ้างา) เข้าสู่ศูนย์บริบาลช้างป่า ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าพังงา อ.เมือง จ.พังงา
อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวว่า พลายไข่นุ้ย ช้างป่าตัวผู้ อายุ 8-10 ปี ความสูง 2 เมตร น้ำหนัก 2-2.5 ตัน มีพฤติกรรมเกเร และออกจากป่าอุทยานฯ ใต้ร่มเย็น จ.สุราษฎร์ธานี ทำลายพืชผลอาสินทางการเกษตร สร้างความเดือนร้อนให้ประชาชนในพื้นที่ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ตั้งแต่ช่วงเดือน ม.ค.2565 ซึ่งเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) ได้ผลักดันเข้าป่าสำเร็จ แต่ช้างป่าตัวดังกล่าวได้ออกนอกพื้นที่อีกครั้ง และเริ่มมีพฤติกรรมดุร้าย วิ่งไล่คน
ต่อมาชาวบ้านในพื้นที่นครศรีธรรมราช ได้ฟ้องร้องต่อศาลปกครอง ขอให้กรมอุทยานฯ จับและเคลื่อนย้ายช้างป่าเพื่อนำไปปล่อยในพื้นที่อุทยานฯ ใต้ร่มเย็น หรือพื้นที่อื่นที่เหมาะสม โดยเจ้าหน้าที่จับช้างป่าสำเร็จเมื่อวันที่ 11 ส.ค.2566 และเคลื่อนย้ายมาดูแลที่หน่วยจัดการต้นน้ำคลองกลาย ระหว่างรอการสร้างคอกอนุบาลช้างป่าแล้วเสร็จ ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าพังงา จ.พังงา จนกระทั่งย้ายเข้ามาในวันนี้
เคลื่อนย้ายพลายไข่นุ้ยมาศูนย์บริบาลช้างป่า
ขณะที่นายเผด็จ ลายทอง ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเวลา 01.10 น. วันนี้ ได้เคลื่อนย้ายพลายไข้นุ้ย ออกจาก อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช มาถึงศูนย์บริบาลฯ เวลา 06.10 น. ระยะทาง 200 กิโลเมตร โดยการเคลื่อนย้ายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และช้างป่าให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่มีท่าทีเกรี้ยวกราด หรือดุร้าย รวมทั้งมีควาญและช้างพี่เลี้ยงเดินทางมาด้วย
เมื่อมาถึงศูนย์บริบาลช้างป่า ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าพังงา พลายไข่นุ้ยเดินสำรวจพื้นที่ ซึ่งเป็นคอก ขนาด 4 ไร่ มีบ่อน้ำ และโรงช้างสำหรับดูแลรักษา ตรงกลางเป็นกึ่งป่าธรรมชาติ มีพืชอาหาร ป่าไผ่ และต้นไม้ใหญ่ ล้อมรอบด้วยเพนียดปูนกั้นช้าง ใช้งบประมาณก่อสร้าง 6 ล้านบาท ซึ่งกรมอุทยานฯ ได้จ้างควาญช้างคนดังกล่าว ที่เรียนจบสัตวบาล มาดูแลพลายไข่นุ้ยระหว่างปรับพฤติกรรมให้เป็นมิตรกับคนมากขึ้น ไม่วิ่งไล่คน เพราะก่อนหน้านี้เคยทำลายพืชผลทางการเกษตร และทำร้ายช้างบ้านบาดเจ็บ
ควาญช้าง และช้างพี่เลี้ยง พาพลายไข่นุ้ยมาส่งที่คอกบริบาลฯ
ต้องการให้เขาเป็นมิตรขึ้น ไม่ใช่เจอคนแล้ววิ่งเข้าใส่ เอาไว้ข้างนอกมันก็เสี่ยงตาย เสี่ยงถูกยิง สุดท้ายช้างจะดุขึ้น มันมีโอาสฆ่าคน และคนก็มีโอกาสฆ่ามัน
นายเผด็จ กล่าวว่า สุขภาพโดยรวมของพลายไข่นุ้ยไม่มีปัญหา แต่ต้องฟื้นฟูร่างกายและมวลกล้ามเนื้อ และต้องให้วิตามินเพิ่มเติม เพราะก่อนหน้านี้ถูกกักอยู่ในพื้นที่จำกัด โดยจะมีการประเมินผลและติดตามพฤติกรรมของพลายไข่นุ้ย ถึงแนวทางการปรับพฤติกรรมช้างป่าในคอกบริบาล
สำหรับโครงการก่อสร้างคอกอนุบาลช้างป่าดังกล่าว กรมอุทยานฯ ร่วมกับมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการด้านการจัดการและการดูแลสัตว์ป่า เพื่อร่วมมือทางวิชาการ ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรช้างป่า การดูแลช้างป่าบาดเจ็บ การจัดหาสถานที่ดูแลรักษาและพักฟื้นช้างป่าให้กลับคืนสู่สภาวะปกติ หรือปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ รวมถึงพิจารณาแก้ไขปัญหาช้างป่ารบกวนประชาชน
"พลายไข่นุ้ย" เป็นโครงการต้นแบบในการจัดการช้างเกเรในพื้นที่อื่น ๆ ซึ่งคณะทำงานขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาช้างป่า มีมติให้ขยายผลความร่วมมือในการก่อสร้างคอกบริบาลช้างป่าในพื้นที่ป่าตะวันออก โดยกรมอุทยานฯ กำหนดให้สร้างที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่ากระบกคู่ จ.ฉะเชิงเทรา เนื่องจากมีความพร้อมทั้งสัตวแพทย์ สัตวบาล และเจ้าหน้าที่ดูแล ซึ่งขั้นตอนจากนี้ต้องหางบประมาณทุกช่องทาง ทั้งการของบกลาง การรับบริจาคมาถึงกรมฯ โดยตรง หรือผ่านมูลนิธิ โครงการเทใจ และเอกชน เพื่อใช้ก่อสร้างคอกบริบาลดังกล่าว
ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมการอนุรักษ์และจัดการช้าง ครั้งที่ 2/2566 ซึ่ง รมว.ทส.ในฐานะรองประธานกรรมการฯ ได้วางกรอบมาตรการแก้ไขปัญหาช้างป่า 6 ด้าน ได้แก่ การจัดการพื้นที่ป่าอนุรักษ์เพื่อเป็นแหล่งอาศัยของช้างป่า, แนวป้องกันช้างป่า, ชุดเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า และเครือข่ายชุมชน, การช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากช้างป่า, การจัดการพื้นที่รองรับช้างป่าอย่างยั่งยืน และการควบคุมประชากรช้างป่า ด้วยวัคซีนคุมกำเนิด เพื่อนำไปสู่การอนุรักษ์และการจัดการประชากรช้างป่าให้มีปริมาณที่สมดุล ลดปัญหาระหว่างคนกับช้างป่า และส่งเสริมให้เกิดการอนุรักษ์และจัดการช้างป่าอย่างมีส่วนร่วมและยั่งยืน
อ่านข่าว
ตรวจสุขภาพ "พลายไข่นุ้ย" ตัวตึงกรุงชิง จ่อเคลื่อนย้าย พ.ค.นี้
ปฏิบัติการย้าย "พลายไข่นุ้ย" ตัวตึงกรุงชิง-รอบ้านใหม่อีก 1 เดือน
ศึกขัดแย้ง “คน-ช้างป่า” 12 ปียังไม่จบ ระยะทางอีกยาวไกล
<< Previous Next >>
Thu, 2 May 2024 14:49:00
กรณีตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) จับขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่าข้ามชาติลิงลีเมอร์ 48 ตัว เต่า 1,076 ตัว ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ลักลอบนำเข้าไทยผิดกฎหมาย
วันนี้ (2 พ.ค.2567) นายวีระ ขุนไชยรักษ์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุพืช เปิดเผยว่า หลังจาก ปทส.จับผู้ต้องหา 6 คน และสัตว์ป่าของกลาง ได้แก่ ลิงลีเมอร์ 48 ตัว เต่าดาว 1,049 ตัว ขณะนี้ชุดเหยี่ยวดง ร่วมกับศูนย์ข่าวกรองอาชญากรรมสัตว์ป่า ขยายผลขบวนการค้าสัตว์ป่าข้ามชาติ หลังพบว่ามีแหล่งพักสัตว์บริเวณบ้านใน ต.เนินหอม อ.เมืองปราจีนบุรี จึงนำหมายค้นศาลจังหวัดปราจีนบุรี เข้าตรวจค้น ผู้ต้องหา 1 คน และของกลางสัตว์ป่าอีก 158 ตัว
ขยายผลค้นแหล่งพักสัตว์ป่า จ.ปราจีนบุรีได้ผู้ต้องหา 1 คน ของกลางสัตว์ป่าอีก 158 ตัว โดยเฉพาะเสือปลา
สำหรับสัตว์ป่าของกลางที่ตรวจยึดได้ครั้งนี้ เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง คือ นกกวัก 1 ตัว จระเข้น้ำจืด 3 ตัว เสือปลา 1 ตัว ส่วนสัตว์ป่าควบคุม เช่น ลิงโคโลบัส 8 ตัว เต่าบกลายจักร หรือเต่าลายรัศมี 173 ตัว
เจ้าหน้าที่นำตัวเจ้าของบ้านแจ้ง 3 ข้อหาตามาตรา 17,18 และ 19 ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ฐานครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง และสัตว์ป่าควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษตามมาตรา 92 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และไม่แจ้งประกอบกิจการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุม (จระเข้) ตามมาตรา 78 ตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 สำหรับสัตว์ป่าของกลาง พร้อมอุปกรณ์การกระทำผิด ส่งมอบให้ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 1 (นครนายก) และจระเข้น้ำจืด จำนวน 3 ตัว ส่งมอบให้สำนักงานประมง จ.ปราจีนบุรี รับไปดูแลตามระเบียบหรือจนกว่าคดีจะถึงที่สิ้นสุดต่อไป
พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผบก.ปทส.)
ชี้ "ลีเมอร์" ราคาพุ่งไปประเทศที่ 3 หลักล้าน
ด้านพล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผบก.ปทส.) ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า 2 ใน 6 ผู้ต้องหาที่จับได้ครั้งนี้เคยมีคดีเมื่อปี 2562 มาแล้ว ซึ่งแก๊งนี้เป็นขบวนการค้าสัตว์ป่าข้ามชาติ โดยใช้ไทยเป็นทางผ่านในการขนสัตว์ป่าไปยังประเทศที่ 3 ซึ่งปทส.ยังติดตามพฤติการณ์ของกลุ่มนี้มาต่อเนื่อง จนเริ่มพบความเคลื่อนไหวในการลักลอบสัตว์จากภาคใต้ครั้งนี้
ผบก.ปทส.กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาที่จับได้ครั้งนี้เป็นเครือข่ายค้าข้ามชาติ 2 ใน 6 ผู้ต้องหาที่ถูกจับได้ แบ่งหน้าที่กันทำงานคือเดินทางไปจัดหาลีเมอร์ที่มาดากัสการ์ และอีกคนคือไปติดต่อเรื่องเส้นทางการขนลีเมอร์มาลงทางเรือที่จังหวัดอาเจะห์ ประเทศอินโดนีเซีย และเดินทางมาไทยใช้เส้นทาง อ.ละงู จ.สตูล เข้ามาทางภาคใต้ โดยพักที่ จ.ชุมพร จึงถูกจับได้ เพราะเรามีสายข่าวอยู่แล้ว
เปิดเส้นทางลอบขนสัตว์ป่ามาดากัสการ์-ไทย
ผบก.ปทส.กล่าวว่า การจับขบวนการค้าสัตว์ป่าแก๊งนี้ เพราะใช้รถนำขบวนและลักษณะรถพิเศษที่ขนสัตว์ป่ากว่า 1,000 ตัว เป็นลีเมอร์ 48 ตัวและเต่าดาวกว่า 1,000 ตัว ซึ่งเป็นการจับตาและได้แกะรอยขบวนการนี้ตั้งแต่เขาถูกจับครั้งแรกและถูกปล่อยตัวออกมา กระทั่งได้รับข่าวว่ามีความเคลื่อนไหวกลับมาค้าสัตว์ป่าอีกครั้ง โดยใช้เส้นทางขนส่งทางภาคใต้ จึงส่งทีมประกบมาตั้งแต่จ.สตูล และจับได้ที่ จ.ชุมพร
ขณะนี้เตรียมขยายผลไปถึงนายทุนใหญ่ที่เป็นแก๊งค้าสัตว์ข้ามชาติจากประเทศต้นทาง โดยร่วมกับกรมศุลกากร กรมอุทยานฯ กำลังตรวจสอบย้อนกลับไปต้นทางที่ลักลอบนำสัตว์ป่าหายาก ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน โดยเฉพาะลีเมอร์ที่ยึดได้มีทั้งลีเมอร์ทั่วไป ลีเมอร์หน้าขาว ที่เป็นกลุ่มสัตว์ป่าหายากได้มากถึง 48 ตัว แต่ละตัวมีขนาดใหญ่แล้ว
การยึดลีเมอร์ได้ถึง 48 ตัวยังมีชีวิตทั้งหมด แสดงว่าการขนมาจากต้นทางมีการดูแลอย่างดี ซึ่งราคาต่อตัว 100,000 บาท แต่หากผ่านไปประเทศที่ 3 น่าจะสูงถึง 1 ล้านบาทเป็นสัตว์ที่นิยมในฮ่องกง จีน ยุโรป
อ่านข่าว ปทส.จ่อออกหมายจับ "ผู้เช่าโกดังภาชี" พบพิรุธไฟไหม้สารเคมีซ้ำ
เจ้าหน้าที่่นำลีเมอร์ 48 ตัวของกลางในคดีไปฟื้นฟู และดูแลที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตวป่าบางพระ จ.ชลบุรี
สำหรับสัตว์ป่าของกลางคือลีเมอร์ และเต่าดาว เมื่อช่วงเช้าเจ้าหน้าที่จากคลินิกสัตว์ป่า ได้ขนย้ายไปที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางพระ จ.ชลบุรีแล้ว โดยมีเต่าดาวตาย 8 ตัวส่วนลีเมอร์ ยังอยู่ในสภาพดี แต่พบว่ามีอาการตื่นกลัว บางตัวกอดกันแน่น เจ้าหน้าที่ชี้แจงว่าลีเมอร์เป็นสัตว์ที่อยู่รวมกันเป็นฝูง เป็นสัตว์สังคม และถ้ามีการจับแยกกันจะทำให้อีกตัวไม่มีความสุขหรือไม่ จึงขอเรียกร้องให้คนที่นิยมสัตว์แปลกเลิกเลี้ยงสัตว์เหล่านี้
รู้จัก "ลีเมอร์" ลิงตาโตจากทวีปแอฟริกา
สำหรับลีเมอร์ (Lemur) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในอันดับไพรเมตหรือลิง
มีรูปร่างทั่วไปคล้ายกับลิง แต่ทว่ามีส่วนหัวคล้ายหมาจิ้งจอก คือ มีจมูกและปากแหลมยาว มีดวงตากลมโต ขนหนาฟู มีหางยาวเป็นพวงเหมือนกระรอก เฉลี่ยของลีเมอร์ขนาดเท่าแมว น้ำหนักตัวประมาณ 9 กก. มีการกระจายพันธุ์เฉพาะบนเกาะมาดากัสการ์ทางชายฝั่งแอฟริกาตะวันออก
ลีเมอร์หน้าขาว ที่เป็นกลุ่มสัตว์ป่าหายาก
ลีเมอร์มีพฤติกรรมอยู่รวมกันเป็นฝูง และมีจุดเด่นคือ เสียงร้องที่หลากหลายและดังกึกก้องไปทั่ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเวลาออกหากินในยามพลบค่ำ ซึ่งอาหารของลีเมอร์ได้แก่ ใบไม้ ผลไม้ แมลง ไข่นก และสัตว์ขนาดเล็กชนิดต่าง ๆ แตกต่างออกไปตามแต่ละชนิด ด้วยการใช้ขาหน้าที่เสมือนมือในการหยิบฉวย ขุดคุ้ย หยิบจับอาหารได้คล่องแคล่วเช่นเดียวกับสัตว์ประเภทอื่นในอันดับเดียวกัน หากแต่จะใช้หางในการเกาะเกี่ยวกับกิ่งไม้ไม่ได้
ตามรายงานของสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรม ชาติ (IUCN) ระบุว่าร้อยละ 91 ของลีเมอร์ 103 ชนิดที่รู้จักกำลังตกอยู่ในภาวะถูกคุกคาม โดยลีเมอร์ 23 ชนิด ถูกจัดอยู่ในภาวะเสี่ยงสูญพันธุ์ขั้นวิกฤต อีก 52 ชนิดถูกจัดอยู่ในภาวะเสี่ยงสูญพันธุ์ และอีก 19 ชนิดจัดอยู่ในภาวะมีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์ ตามบัญชีแดงของสหภาพเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) โดยลีเมอร์ชนิดที่หายากที่สุด คือ ลีเมอร์นอร์เทิร์นสปอร์ตีฟ ที่เหลือเพียงแค่ 18 ตัวเท่านั้น
<< Previous Next >>
Thu, 2 May 2024 08:42:00
วันนี้ (2 พ.ค.2567) ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร เวลา 07.00 น. ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ของฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ตรวจวัดได้ 29.6-54.4 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 46 พื้นที่ คือ
อ่านข่าว : เริ่มพรุ่งนี้ ! เช็กพื้นที่ไทยตอนบนเจอ "พายุฤดูร้อน" รับมือยาว 5 วัน
1.เขตบางขุนเทียน ภายในสำนักงานเขตบางขุนเทียน ตรวจวัดได้ 51.6 มคก./ลบ.ม.
2.เขตคลองสาน บริเวณหน้าห้องสมุดใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน ตรวจวัดได้51.1 มคก./ลบ.ม.
3.เขตสัมพันธวงศ์ บริเวณหน้าหัวมุม ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ (วงเวียนโอเดียน) ตรวจวัดได้ 49.4 มคก./ลบ.ม.
4.เขตคลองเตย ภายในสำนักงานเขตคลองเตย ตรวจวัดได้ 49.2 มคก./ลบ.ม.
5.เขตจตุจักร บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตรวจวัดได้ 49.0 มคก./ลบ.ม.
6.เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี ตรวจวัดได้ 48.4 มคก./ลบ.ม.
7.เขตราษฎร์บูรณะ ภายในสำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ ตรวจวัดได้ 48.1 มคก./ลบ.ม.
8.เขตดินแดง ริมถนนวิภาวดีรังสิต ตรวจวัดได้ 47.7 มคก./ลบ.ม.
9.เขตบางซื่อ ภายในสำนักงานเขตบางซื่อ : มีค่าเท่ากับ 47.5 มคก./ลบ.ม.
10.สวนหลวงพระราม 8 เขตบางพลัด ตรวจวัดได้ 46.5 มคก./ลบ.ม.
11.เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 ตรวจวัดได้ 46.4 มคก./ลบ.ม.
12.สวนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม ตรวจวัดได้ 46.2 มคก./ลบ.ม.
13.เขตบางพลัด ภายในสำนักงานเขตบางพลัด ตรวจวัดได้ 46.2 มคก./ลบ.ม.
14.เขตบางกอกใหญ่ บริเวณสี่แยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ ตรวจวัดได้ 45.9 มคก./ลบ.ม.
15.เขตบางนา บริเวณหน้าห้าง สรรพสินค้าบิ๊กซี บางนา ตรวจวัดได้ 45.8 มคก./ลบ.ม.
16.เขตบางบอน ใกล้ตลาดบางบอน ตรวจวัดได้ 45.7 มคก./ลบ.ม.
17.เขตพญาไท หน้าแฟลตทหารบกใกล้โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ตรงข้ามกระทรวงการคลัง ตรวจวัดได้ 45.3 มคก./ลบ.ม.
18.เขตทุ่งครุ หน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ตรวจวัดได้ 45.0 มคก./ลบ.ม.
19.เขตหลักสี่ ภายในสำนักงานเขตหลักสี่ ตรวจวัดได้ 44.9 มคก./ลบ.ม.
20.เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 ตรวจวัดได้ 44.9 มคก./ลบ.ม.
21.เขตวังทองหลาง ด้านหน้าปั๊มน้ำมัน เอสโซ่ ซ.ลาดพร้าว 95 ตรวจวัดได้ 44.9 มคก./ลบ.ม.
22.เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหศวรรย์ ตรวจวัดได้ 44.9 มคก./ลบ.ม.
23.สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เขตบางกอกน้อย ตรวจวัดได้ 44.5 มคก./ลบ.ม.
24.เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตรวจวัดได้ 44.0 มคก./ลบ.ม.
25.เขตดุสิต ริมสวนหย่อมตรงข้ามสำนักงานเขตดุสิต ตรวจวัดได้ 43.4 มคก./ลบ.ม.
26.สวนธนบุรีรมย์ เขตทุ่งครุ ตรวจวัดได้ 42.9 มคก./ลบ.ม.
27.เขตจอมทอง ภายในสำนักงานเขตจอมทอง ตรวจวัดได้ 42.7 มคก./ลบ.ม.
28.สวนกีฬารามอินทรา เขตบางเขน ตรวจวัดได้ 42.7 มคก./ลบ.ม.
29.เขตบึงกุ่ม ภายในสำนักงานเขตบึงกุ่ม ตรวจวัดได้ 41.8 มคก./ลบ.ม.
30.เขตบางแค ภายในสำนักงานเขตบางแค ตรวจวัดได้ 41.5 มคก./ลบ.ม.
31.สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เขตจตุจักร ตรวจวัดได้ 41.4 มคก./ลบ.ม.
32.เขตบางคอแหลม บริเวณป้อมตำรวจสี่แยกถนนตก ตรวจวัดได้ 41.3 มคก./ลบ.ม.
33.เขตห้วยขวาง ภายในสำนักงานเขตห้วยขวาง (ด้านข้างโรงเพาะชำ) ถนนประชาอุทิศ ตรวจวัดได้ 41.0 มคก./ลบ.ม.
34.เขตมีนบุรี สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตรงข้ามสำนักงานเขตมีนบุรี ตรวจวัดได้ 40.9 มคก./ลบ.ม.
35.เขตสายไหม ป้ายรถเมล์ด้านหน้าสำนักงานเขตสายไหม ตรวจวัดได้ 40.7 มคก./ลบ.ม.
36.สวนวชิรเบญจทัศ เขตจตุจักร ตรวจวัดได้ 40.6 มคก./ลบ.ม.
37.สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง ตรวจวัดได้ 40.5 มคก./ลบ.ม.
38.สวนบางแคภิรมย์ เขตบางแค ตรวจวัดได้ 40.5 มคก./ลบ.ม.
39.สวนสันติภาพ เขตราชเทวี ตรวจวัดได้ 40.5 มคก./ลบ.ม.
40.อุทยานเบญจสิริ เขตคลองเตย ตรวจวัดได้ 40.4 มคก./ลบ.ม.
41.สวนจตุจักร เขตจตุจักร ตรวจวัดได้ 39.8 มคก./ลบ.ม.
42.สวนเบญจกิติ เขตคลองเตย ตรวจวัดได้ 39.6 มคก./ลบ.ม.
43.เขตลาดพร้าว ภายในสำนักงานเขตลาดพร้าว ตรวจวัดได้ 39.6 มคก./ลบ.ม.
44.เขตพระโขนง ภายในสำนักงานเขตพระโขนง ตรวจวัดได้ 39.5 มคก./ลบ.ม.
45.สวนหนองจอก เขตหนองจอก ตรวจวัดได้ 38.9 มคก./ลบ.ม.
46.เขตวัฒนา ตรงข้าม noble Reveal(ข้าง MK gold restaurants) ตรวจวัดได้ 38.4 มคก./ลบ.ม.
ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง(คาดการณ์แนวโน้มสภาพอากาศที่ส่งผลกระทบต่อฝุ่นPM2.5 โดยสภาพทางอุตุนิยมวิทยา)
ในช่วงวันที่ 2-10 พ.ค.2567 การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ดี ขณะที่ชั้นบรรยากาศใกล้ผิวพื้นมีลักษณะค่อนข้างปิดในระยะแรก ส่งผลให้ความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มทรงตัวถึงเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม มีโอกาสเกิดฝนระหว่างวันที่ 7-9 พ.ค. 67 ซึ่งจะทำให้ความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลง และคาดการณ์วันนี้มีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อ่านข่าว : สภาพอากาศวันนี้ "ลำปาง" ไม่แผ่ว ยืนหนึ่งร้อนสุด 44 องศาฯ
ภาคเหนือ คุณภาพอากาศระดับสีแดง 13 พื้นที่
ข้อมูลจากเว็บไซต์ IQAir ที่ตรวจวัดคุณภาพอากาศทั่วโลก ปรากฏว่าวันนี้ จ.เชียงใหม่ ถูกจัดให้อยู่ในอันดับ 4 ของเมืองที่มีมลพิษทางอากาศสูง (AQI) โดย AQI เฉลี่ยถึง 167
สำหรับสถานการณ์คุณภาพอากาศ พื้นที่ภาคเหนือ คุณภาพอากาศอยู่ในระดับ ปานกลาง ถึง มีผลกระทบต่อสุขภาพ
สารมลพิษทางอากาศที่ตรวจพบเกินมาตรฐานได้แก่
- ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน ตรวจวัดได้ 86.3 มคก./ลบ.ม.
- ต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ตรวจวัดได้ 136.6 มคก./ลบ.ม.
- ต.บ้านต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา ตรวจวัดได้ 101.5 มคก./ลบ.ม.
- ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง ตรวจวัดได้ 90.1 มคก./ลบ.ม.
- ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ตรวจวัดได้ 107.8 มคก./ลบ.ม.
- ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย ตรวจวัดได้ 107.1 มคก./ลบ.ม.
- ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตรวจวัดได้ 109.6 มคก./ลบ.ม.
- ต.เวียง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ตรวจวัดได้ 211.4 มคก./ลบ.ม.
- ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ตรวจวัดได้ 89.6 มคก./ลบ.ม.
- ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ตรวจวัดได้ 77.5 มคก./ลบ.ม.
- ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ตรวจวัดได้ 117.7 มคก./ลบ.ม.
- ต.นาจักร อ.เมือง จ.แพร่ ตรวจวัดได้ 80.3 มคก./ลบ.ม.ต.เวียงใต้
- อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ตรวจวัดได้ 81.6 มคก./ลบ.ม.
ภาพรวมปริมาณ PM2.5
- ภาคเหนือ ส่วนใหญ่อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ตรวจวัดได้ 33.9 - 211.4 มคก./ลบ.ม.
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนใหญ่อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ตรวจวัดได้ 22.7 - 94.7 มคก./ลบ.ม.
- ภาคกลางและตะวันตก ส่วนใหญ่อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ตรวจวัดได้ 28.3 - 51.3 มคก./ลบ.ม.
- ภาคตะวันออก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ตรวจวัดได้ 12.5 - 37.0 มคก./ลบ.ม.
- ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 12.4 - 37.0 มคก./ลบ.ม.
อ่านข่าว :
เช็กเงินอุดหนุนรายหัวนักเรียน 2567 ระดับอนุบาล-ม.ปลาย
ร้อนจน "รางรถไฟโก่ง" เทน้ำแข็ง-ฉีดน้ำ" รฟท.ตรวจแล้วปลอดภัย
<< Previous Next >>
Wed, 1 May 2024 17:47:00
วันนี้ (1 พ.ค.2567) พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผบก.ปทส.) กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีขบวนรถต้องสงสัยว่าจะมีการลักลอบขนสัตว์ป่าผิดกฎหมาย ที่ลักลอบนำเข้ามาจาก จ.อาเจ๊ะ เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย มาขึ้นฝั่งที่บริเวณ อ.ละงู จ.สตูล เพื่อมุ่งหน้ามากรุงเทพมหานคร จึงสั่งการให้ ตำรวจ ปทส.ร่วมกับ U.S.Fish and Wildlife Service สืบสวนสะกดลอย จนพบรถยนต์ต้องสังสัย 4 คัน ขับมาเป็นขบวน อยู่บริเวณ ต.ขุนกระทิง อ.เมือง จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่จึงเรียกขอตรวจสอบรถทั้ง 4 คัน
ตรวจสอบภายในรถยนต์ของกลางสัตว์ป่าอยู่ภายในรถ เป็นลิงลีเมอร์ 48 ตัว ถูกขังอยู่ในกรง 11 กรง เต่า 1,076 ตัว ถูกขังอยู่ในลัง 141 ลัง พร้อมจับกุมผู้ต้องหาได้ 6 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม และขยายผลเพื่อจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้อง
สำหรับผู้ต้องหาที่จับกุมได้ในครั้งนี้ ถูกดำเนินคดีในความผิดฐานตาม ม.19 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ในข้อหามีสัตว์ป่าควบคุม หรือซากสัตว์ป่าควบคุม ที่ต้องแจ้งการครอบครองไว้ในความครองครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ,ความผิดตาม ม.12 พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2499 ในข้อหาร่วมกันเคลื่อนย้ายสัตว์หรือซากสัตว์เข้าในเขตปลอดโรคระบาด หรือผ่านเขตแนวนั้น โดยไม่ได้รับอนุญาต และ ความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากรฯ
ขณะที่เจ้าหน้าที่เตรียมนำสัตว์ป่าของกลางมาที่คลินิกกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อฟื้นฟูและรักษาสัตว์ป่าล็อตนี้จนกว่าจะดีขึ้น พร้อมทั้งเตรียมขยายผลขบวนการดังกล่าว
อ่านข่าวอื่นๆ
ส่อง "ถุงบิ๊กแบ็ก" แคดเมียมแตกไร้มาตรฐาน UN
ปล่อยคืนธรรมชาติ "น้องช้าง" แร้งดำหิมาลัย หลังฟื้นฟู 3 เดือน
<< Previous Next >>
Wed, 1 May 2024 12:11:00
กรณีถุงบิ๊กแบ็กแคดเมียมแตก เนื่องจากโซ่ดึงขาดในระหว่างการทดลองเคลื่อนย้ายถุงแคดเมียมที่ขนย้ายจากสมุทรสาคร และ กทม.มาเก็บในโกดังชั่วคราวบริษัท เบาด์ แอนด์บียอนด์ จ.ตาก จนต้องสั่งยุติชั่วคราวและปรับแผนใหม่
วันนี้ (1 พ.ค.2567) นายสนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุข ภาพ ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า จากการติดตามการขนย้ายกากแคด เมียมกลับ จ.ตาก ครั้งนี้ พบปัญหาตั้งแต่กระบวนการขนย้ายที่ไม่มีแผนประเมินความเสี่ยง แผนเผชิญเหตุ โดยเฉพาะรถขนย้ายแคดเมียมที่ควรต้องเป็นระบบปิด ไม่ใช่รถเทรลเลอร์เปิด แม้จะมีผ้าใบกันน้ำปิดคลุม มีจีพีเอสติดตามก็ตามแต่ไม่รับประกันความเสี่ยงใด ๆ หากเกิดอุบัติบิีกแบ็กแคดเมียมแตก หรืออุบัติเหตุระหว่างขนส่ง
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบก่อนขนย้ายถุงบิ๊กแบ็กล็อตแรกจากสมุทรสาคร-กทม.กว่า 240 ตัน
ชี้ถุงบิ๊กแบ็กแตก-ไร้มาตรฐาน
นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม กล่าวอีกว่า ส่วนถุงบิ๊กแบ็กที่ใช้ใส่กากของเสียอัน ตราย เช่น แคดเมียม ปรอท ตะกรัน สังกะสี อลูมิเนียม ปรอท มาตรฐานสากลต้องผลิตจากวัสดุโพรพิลีน 100% ทนแรงฉีกขาดที่ได้รับการรับรองจากองค์การสหประชาชาติว่าด้วยการขนส่ง จะมีสัญญาลักษณ์ UN ติดอยู่บนถุงอย่างเห็นได้ชัดเจนเรียกว่า "UN Mark" สามารถยืนยันว่าได้ผ่านการทดสอบกับองค์กรที่ได้รับรองในระดับสากลแล้ว
ถุงแคดเมียมที่แตก ไม่น่าจะใช้ถุงบิ๊กแบ็กตามมาตรฐาน UN มาใส่ทำให้ไม่มีความทนทานของการตกกระแทก หูหิ้วต้องไม่ฉีกขาด และไม่รั่วซึม ดังนั้นในล็อตอื่น ๆ ที่เหลืออีก 10,000 ตันมีข้อเสนอให้นำถุงมาตรฐาน UN มาสวมทับถุงเดิมเพื่อป้องกันซ้ำรอย
มาตรฐานถุงบิ๊กแบ็ก ต้องมีมาตรฐาน UN ( ภาพ:Sonthi Kotchawat)
นายสนธิ กล่าวอีกว่า ขณะที่กากแคดเมียมที่นำไปก่อนจะนำลงหลุมฝังกลบจะต้องปรับสภาพใส่ปูนขาวไม่ให้ละลายน้ำ และปูนซีเมนต์กันซึม นำไปทดสอบก่อนว่าทุบแตกหรือไม่ และทดสอบการระบายน้ำว่าจะไม่มีสารมลพิษ
ขณะที่หลุมฝังกลบในโกดังของบริษัท เบาด์ แอนด์บียอนด์ ซึ่งเป็นโรงงานประเภท 101 ที่ไม่ได้ประกอบกิจการมานานแล้ว สิ่งที่น่ากังวลคือหลุมฝังกลบยังสามารถรองรับกากแคดเมียมได้หรือไม่ เพราะต้องใช้ดินเหนียวอัดและโบกซีเมนต์ผนึกแคดเมียมลงหลุม ต้องมีการติดตามตรวจสอบน้ำใต้ดิน 30 ปี
กังวลว่าโรงงานร้างไปแล้วไม่มีเครื่องจักร แต่อยู่ราชการบอกว่าต้องฝังกลบ ปัญหาถุงบิ๊กแบ็กแคดเมียมแตกจึงเกิดขึ้น เพราะเขาใช้รถแบคโฮมาดึง ทั้งที่ต้องใช้รถเครนมาเกี่ยวที่หู
หูหิ้วถุงบิ๊กแบ็กแตกระหว่างการทดลองเคลื่อนย้ายที่โกดัง จ.ตาก
จี้กรมโรงงาน-สผ.ตามมาตรการอีไอเอ
นักวิชการด้านสิ่งแวดล้อม ยังตั้งข้อสังเกตกรณีชาวบ้านพระธาตุผาแดง ต.แม่ตาว จ.ตากที่ป่วยเป็นโรคแคดเมียมมาตั้งแต่ปี 2546 และตอนนี้ผ่านมา 20 ปีไม่มีการดูแลด้านสุขภาพต่อเนื่อง และติดตามคุณภาพน้ำ และสิ่งแวดล้อม สาเหตุเพราะโรงงานผาแดงปิดกิจการ แต่ในเงื่อนไขอีไอเอที่สผ.และกรมโรงงานตั้งไว้ต้องติดตามนาน 30 ปี คำถามคือทั้ง 2 หน่วยงานนี้ได้ติดตามตรวจสอบหรือไม่
ถึงแม้ว่าผาแดง จะปิดกิจการแล้วแต่เงื่อนไขอีไอเอต้องส่งรายงานการติดตามคุณภาพน้ำ ดิน และสุขภาพของชาวบ้านให้สผ.ทุก 2 ปี
แบบไหนเรียกว่าบิ๊กแบ็ก UN
สำหรับถุงบิ๊กแบ็กที่การขนกากอุตสาหกรรมอันตราย เช่น กากแคดเมียมตามมาตรฐานสากล ต้องได้มาตรฐานดังนี้
- ทำจากวัสดุโพรพิลีน 100% ทนแรงฉีกขาดที่ได้รับการรับ รองจากองค์การสหประชาชาติว่าด้วยการขนส่ง จะมีสัญญาลักษณ์UN ติดอยู่บนถุงอย่างเห็นได้ชัดเจนเรียกว่า"UN Mark"
- ทดสอบความทนทานของการตกกระแทก (Drop test) และเมื่อยกด้วยเครนหูหิ้วต้องไม่ฉีกขาด
- ทดสอบความทนทานของการวางเรียงซ้อน (stacking test)
- ทดสอบคุณสมบัติป้องกันการรั่วซึมของถุง (Leak proofness)
- ทดสอบความต้านทานความดันภายใน (internal pressure test)
สำหรับรถบรรทุก ที่ทำการขนส่งกากที่มีพิษร้ายแรงต้องเป็นระบบที่ปิดทึบทุกด้านมีตราสัญญาลักษณ์ป้ายแสดงชนิดของกากและมี UN Number เป็นรหัสในการตอบโต้เหตุฉุกเฉิน สามารถเปิดด้านท้ายและด้านข้างของรถบรรทุกได้เพื่อใช้เครนเกี่ยวหูหิ้วสำหรับเคลื่อนย้ายถุงบิ๊กแบกได้ง่าย
"พัชรวาท” ตั้งคณะอนุกก.จังหวัดเช็กโรงงาน
น.ส.ปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) มีคำสั่งคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่ 2/2567 เมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่งตั้งคณะอนุกรรมการระดับจังหวัด เพื่อสำรวจตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมที่รับดำเนินการของเสียอันตราย รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม
สำหรับคณะอนุกรรมการฯ มีหน้าที่ และอำนาจตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมที่ได้รับดำเนินการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่เป็นของเสียอันตรายตามพ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 แก้ไขเพิ่มเติม รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยง ที่จะมีผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม และให้รายงานผลการตรวจสอบภายใน 20 วันมายัง คพ. เพื่อรายงานต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
อ่านข่าว : ปล่อยคืนธรรมชาติ "น้องช้าง" แร้งดำหิมาลัย หลังฟื้นฟู 3 เดือน
“เสียงประชาชน” ดังขึ้นดังอีก เอาคืน กกต.อย่าล้ำเส้นสิทธิ
รับครั้งแรก! AstraZeneca ชี้วัคซีนอาจมีผลข้างเคียงลิ่มเลือดอุดตัน
<< Previous